วันที่ 12 พ.ย. 2566 พ.ต.ท.สมพล บุญทา สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตถูกหมกในร่องสวน กลางซอยท่าข้าม 20 แยก 8 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนภายในพื้นที่ดินรกร้าง เนื้อที่ประมาณ 150 ตารางวา เจ้าหน้าที่พบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 30-40 ปี นอนหงาย ถูกคนร้ายปกคลุมร่างด้วยเศษใบไม้ เอาไว้เพื่ออำพรางไม่ให้ชาวบ้านเห็น จากการตรวจสอบสภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาลหน้าอกสกรีนเป็นภาพ หลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย จังหวัดปทุมธานี นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง เข้าที่หน้าอก 6 เม็ด แผ่นหลังและท้ายทอยหลายเม็ด นอกจากนี้ บริเวณลำคอและตามร่างกาย ยังมีรอยคล้ายถูกคมมีดแทง ด้วยจำนวนหลายแห่ง สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วันเนื่องจากเริ่มบวมอืดมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง

เมื่อทำการตรวจสอบวัตถุพยาน พบที่ข้อมือข้อมือซ้ายผู้ตาย สวมนาฬิกายี่ห้อ Casio สีดำจำนวน 1 เรือน ที่นิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนเงินเกลี้ยงจำนวน 1 วง ที่ติ่งหูขวาพบต่างหูจำนวน 1 ข้าง และบริเวณหูกางเกงยีนส์พบพวงกุญแจกับกรรไกรตัดเล็บแขวนอยู่ จำนวน 1 ดอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบร่างให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ดำเนินการผ่าชันสูตรหาเหตุแห่งการตายและเก็บ DNA ไว้เปรียบเทียบอัตลักษณ์เอาไว้ต่อไป

จากการสอบสวน นายจินชกานต์ จิรัฐโภคิน อายุ 44 ปี ชาวบ้านซึ่งพักอาศัยอยู่ติดกับที่ดินรกร้างดังกล่าว ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาลูกสาวตน ได้กินเหม็นเน่าคล้ายซากศพ จึงเดินสำรวจบริเวณรอบๆ บ้าน จนไปพบจุดที่คนร้ายนำใบไม้ปกปิดอำพรางร่างผู้ตายเอาไว้ ทีแรกนึกว่าเป็นซากศพสุนัข แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ พบนาฬิกาสวมอยู่ที่ข้อมือ จึงแน่ใจว่าเป็นคนก็เลยรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เท่าที่ดูสภาพศพ เชื่อว่าไม่ใช่คนแถวนี้เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตามพื้นที่ร้างดังกล่าวนั้นช่วงกลางคืนใครจะเข้าไปทำอะไรก็ได้ เพราะไม่ได้มีการล้อมพื้นที่เอาไว้ให้มิดชิด และมักมีคนงานชาวเมียนมามาตั้งวงดื่มสุราส่งเสียงดังอยู่บ่อยครั้ง แต่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติแต่อย่างใด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสันนิษฐานผู้ตายอาจถูกฆ่ามาจากที่อื่น ก่อนนำศพมาทิ้งอำพรางไว้ในที่ดินร้างแห่งนี้ ซึ่งจะประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหายานพาหนะและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ตามล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ใดสงสัยว่าอาจรู้จักกับผู้ตายหรือเชื่อว่าเป็นญาติขอให้ติดต่อได้ที่ สน.ท่าข้าม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง