ตำรวจปส.แถลงจับยาบ้า 10 ล้าน ซุกรถขนกล้วยน้ำว้า จากเยงใหม่ส่งอยุธยา


6 ธ.ค. 2566, 12:28

ตำรวจปส.แถลงจับยาบ้า 10 ล้าน ซุกรถขนกล้วยน้ำว้า จากเยงใหม่ส่งอยุธยา




วันที่ 6 ธ.ค. 2566 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นาลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว,
ผู้แทนจาก กอ.รมน., สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดภาคเหนือ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย รถยนต์ 3 คัน หลักลักลอบขนยาบ้า 10 ล้านเม็ดซุกซ่อนในรถขนกล้วยน้ำว้า ส่งขาย จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 บช.ปส. โดย กก.2 บก.ปส.3 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะมีการใช้รถกระบะลักษณะตีคอก (ป้ายแดง) กำแพงเพชร และ รถกระบะอีชูซุ เชียงใหม่ ในการลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เชียงใหม่ ลงไปยังพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขับรถกระบะ (ป้ายแดง) กำแพงเพชร เข้าไปรับยาเสพติด บริเวณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เซียงใหม่ จากนั้นได้มุ่งหน้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยมีรถยนต์อีซูซุ ป้ายเชียงใหม่ ขับนำทางและนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปั้มน้ำมันปตท.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะมีคนลงจากรถเก๋งที่ขับมาจอดด้านข้างแล้วขึ้นไปขับตามกันออกไป จากนั้นพบรถทั้ง 2 คันขับมาจอดภายในซอยหมู่บ้านฉัตรนคร แขวง/เขตประเวศ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นรถกระบะลักษณะตีคอก พบมีการใช้กล้วยน้ำว้าจำนวนมากมาวางปิดทับซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวนประมาณ 10 ล้านเม็ด เจ้ากน้าที่จึงทำการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ขับรถบรรทุกยาเสพติดและรถนำทั้งหมด จำนวน 5 คน พร้อมรถยนต์ 3 คัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี


พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. เผยว่า ภายใต้แผน "ตามล่า 100 เครือข่าย" ในคดีนี้พบว่าผู้ต้องหาเครือข่ายนี้มีการรับยาเสพติดจากในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เซียงใหม่ โดยใช้รถยนต์กระบะลักษณะตีคอก และใช้กล้วยซึ่งเป็นผลผลิตการเกษตรของชาวเขาตามแนวชายแดนปิดทับช่อนไว้ เช่นเดียวกับการจับกุมเมื่อก่อนฃเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยาบ้าจำนวน 13.4 ล้านเม็ด ที่ด่านตรวจ จ.ชุมพร ซึ่งใช้รถกระบะมีคอกใช้กล้วยปิดทับและมีการรับยาบ้ามาจากพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่เช่นกัน

สำหรับ อ.เชียงดาว เป็นหนึ่งใน 5 อำเภอ ตามแนวชายแดนของ จ.เชียงใหม่ที่พบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นประจำ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จะสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการทั้งสองคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว และจะดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่พื้นที่ชายแดนอย่างจริงจัง โดยจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งกำนดสถานะชายแดนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ชายแดน 15 อำเภอ 3 จังหวัดได้แก่ 6 อำเภอ ของ จ.เชียงราย 5 อำเภอของจ.เชียงใหม่ และ 4 อำเภอของ จ.นครพนม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน



นายชาดา ไทยเศษฐ์ รมช.มหาดไทย เผยว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ โดยพบว่าผู้มีอิทธิพลส่วนมากมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ต้องดำเนินการปราบปรามโดยเร่งด่วนซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและกลไกในระดับพื้นที่ กระทรวงมหาดไทยได้เปิดปฏิบัติการ (Kick Off) ปราบปรามผู้มีอิทธิพล เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 66 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานร่วมกัน "แยกปลาแยกน้ำ"ระหว่างผู้เสพผู้ค้า ดำเนินการปราบปรามผู้ค้า ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ยอมรับทุกพื้นที่ในประเทศไทยเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการีะบาดของยาเสพติด ฝากยังพี่น้องประชาชนหากมีเบาะแสของการค้่ยาเสพติดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกึ่ยวข้องได้ทันทีอย่าไปกลัวเพราะถ้ากลัวที่จะแจ้ง ยาเสพติดก็จะเข้ามาหาลูกหลานท่านเอง

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. ยังได้เปิดเผยถึงกรณีตำรวจน้ำ และปส. ร่วมกันจับกุมยาไอซ์ 2 ตันขณะกำลังจะออกน่านน้ำสากล ว่า ตนเองได้กำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการจับยาเสพติดอย่าพยายาม หรือเร่งรัดในการเสนอผลงานด้วยการออกสื่อทันที่ เพร่ะคดียาเสพติดมีความจำเป็นที่ต้อฃสืบสวนขยายผล การมีผู้หนึ่งผู้ใดนำภาพหรือข้อมูลไปเปืดเผยโดยเร็ว นั้นดำในเรื่องผลงานแต่จะกระทบเรื่องการขยายผล ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้สั่งการ ผู้ประสานงาน ผู้สมคบ รวมถึงผู้ที่อยู่ปลายแถว เราไม่จำเป็นต้องรีบเอาข้อมูลจะใช้เวลาซักระยะแล้วมาแถลงให้สังคมรับรู้ก็ไม่สายเกินไป การที่นำออกสื่อไปก่อนจะทำให้ผู้ที่อยู่เบื่องหลังที่ทราบข่าวก็จะไหวตัวทัน ทำให้เราทำงานยากขึ้น ส่วนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลหากได้ข้อมูลที่ครบถ้วนแล้วจะมาแถลงให้ทราบในภายหลัง





คำที่เกี่ยวข้อง : #ตำรวจปส.  









©2018 CK News. All rights reserved.