วันนี้ (29 เม.ย.67) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณสวนยางพารา ทิศตะวันตกบ้านจรัส ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม  รอง สว.สืบสวน กก.กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร ได้นำ คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1, เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้สุรินทร์, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ปทส.กก.สืบสวนภูธรจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสภ.บัวเชด ,เจ้าหน้าที่ ร้อย ฉก. ตชด. 214 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบัวเชด และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน - ห้วยสำราญ ได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางคือ ไม้ประดู่ จำนวน 13 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 2.19 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวง 190.40 บาท  มูลค่าความเสียหาย 83,000 บาท  ข้อกล่าวหาหรือฐานความผิด  ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต”มาตร 48 ฐาน “ แปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต”และมาตรา 69 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังไม่ได้แปรรูป โดยไม่มีรูปรอยดวงตราค่าภาคหลวง หรือตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต"                          

เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบและพบ พฤติการณ์ในการตรวจยึด ด้วยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ปทส.กก.สืบสวนภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ไม่ออกนาม แจ้งว่าพบไม้ถูกนำมากองไว้บริเวณสวนยางพาด้านทิศตะวันตกบ้านจรัส หมู่ที่ 1 ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวข้างต้นเพื่อมาร่วมตรวจสอบ  จากการตรวจสอบบริเวณที่ได้รับแจ้ง พบไม้ถูกนำมากองไว้เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบเป็นชนิดไม้ประดู่ และตรวจพบร่องรอยการแปรรูปไม้และมีขี้เลื่อยตกอยู่เป็นจำนวนมาก ตรวจที่ไม้พบร่องรอยการตัดและเลื่อยแปรรูปโดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ไม้บางส่วนมีการแปรรูปและนำออกจากที่เกิดเหตุไปบ้างแล้ว ตรวจนับจำนวนได้ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 12 ท่อน ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 1 เหลี่ยม ตรวจที่ไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ประทับไว้แต่อย่างใด ตรวจสอบบริเวณด้านทิศตะวันตกห่างจากกองไม้ ประมาณ 200 เมตร ตรวจพบตอไม้ประดู่ จำนวน 4 ตอ ซึ่งเป็นตอไม้ประดู่ที่มีการตัดแล้วขนย้ายมากองไว้ ที่สวนยางพาราดังกล่าว 

จากนั้นได้ประสานกับนายมนูญ แก้มศิริ ผู้ใหญ่บ้านจรัส หมู่ที่ 1 ต.จรัส อ.บัวเชด  จ.สุรินทร์ มาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบถามนายมนูญ แก้มศิริ  ทราบว่าสวนยางพาราที่มีการนำไม้ประดู่มากองไว้นั้น เป็นที่ดินของ นายสัมฤทธิ์  จงหาญ เป็นราษฎรบ้านจรัส หมู่ที่ 1 ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ส่วนที่ดินที่ตรวจพบตอไม้ประดู่นั้นเป็นของนางเขมา เอี่ยมสะอาด เป็นราษฎรบ้านจรัส หมู่ที่ 1 ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ในขณะตรวจสอบไม่สามารถติดต่อนายสัมฤทธิ์ฯ และนางเขมาฯ เพี่อสอบถามได้ ตรวจสอบพื้นที่แล้วปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ป่าห้วยสำราญ คณะหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าไม้ประดู่เป็นไม้หวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ 2530 ลำดับที่ 87 จึงเห็นว่าเป็นการ

กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ประดู่ จำนวน 13 ท่อน เหลี่ยม ปริมาตร 2.19 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวง 190.40 บาท  มูลค่าความเสียหาย 83,000 บาท  ไว้เป็นของกลางในการกระทำผิด และใช้ดวงตรา ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อนและได้บันทึกภาพบริเวณที่เกิดเหตุ ทำบันทึกการ
ตรวจยึด 

โดยมอบเรื่องราวให้ ร.ต.อ.ปราโมทย์  เที่ยงธรรม  รอง สว.(สืบสวน) กก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์  นำเรื่องราวพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง กล่าวโทษพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบัวเชด อำเภอบัวชด จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ไม้ของกลางจะขอรับจากพนักงานสอบสวน เพื่อนำเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์