นายฮ้อยโอดครวญ! โค กระบือ ราคาตก ฝากรัฐบาลใส่ใจ บรรจุไว้เป็นซอฟต์พาวเวอร์


7 พ.ค. 2567, 13:02

นายฮ้อยโอดครวญ! โค กระบือ ราคาตก ฝากรัฐบาลใส่ใจ บรรจุไว้เป็นซอฟต์พาวเวอร์




 

 วันนี้(6 พ.ค. 67) ที่ตลาดนัดโค-กระบือ บ้านสวาย ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเปิดทุกวันจันทร์ และถือว่าเป็นตลาดโค-กระบือที่ใหญ่ที่สุดของของอิสานใต้ พบว่าบรรดานายฮ้อยจากทุกสารทิศทั่วประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียง ได้นำโค-กระบือ  2 พันกว่าตัวเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอย่างคึกคัก โดยไม่ต้องผ่านนายหน้า เสียแต่ค่าบริการสถานที่เพียงตัวละ 40 บาท หากขายได้เสียเพิ่มอีก 40 บาท ในแต่ละนัดมียอดเงินหมุนเวียน 20-30 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 100 กว่าล้านบาท แต่จากการสอบถามบรรดากลุ่มนายฮ้อยที่นำโค-กระบือเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนทราบว่า ประสบปัญหาในเรื่องของราคาโค-กระบือที่ตกต่ำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกระบือจากราคา 5 หมื่นกว่าบาท ต่อรองซื้อในราคาเพียงแค่ 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งไม่สามารถปล่อยขายได้ จำต้องนำกลับไปเลี้ยงไปขุนต่อ ซึ่งก็ต้องเสียเวลาไปอีก

นายเสาร์ หาสุข นายฮ้อยชาวอำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ บอกว่า นำวัวและควายมาขายหลายตัว ขายได้แต่วัวส่วนควายขายไม่ได้เลย พ่อค้าให้ราคาขาดทุนตัว 2-3 พันบาท อย่างตัวที่เห็นห้าหมื่นกว่าบาท เขาให้ราคาแค่สองหมื่นกว่าบาท จำเป็นต้องนำกลับไปเลี้ยงไปขุนต่ออีกคามืออยู่แบบนี้ต่อไป อย่างวัวยังพอได้กำไรบ้างตัวละสองสามร้อยบาท ยังดีที่ตลาดตำบลรามแห่งนี้ใหญ่ พ่อค้าสามารถนำวัว-ควายมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้อย่างสะดวกสบาย

นายพิรุณ แก้วพินึก ผู้บริหารตลาดนัดโค-กระบือและอดีตนายก อบต.ราม กล่าวว่า ตลาดนัดโคกระบือแห่งนี้เปิดบริการทุกวันจันทร์ ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย เดิมเป็นที่สาธารณะประโยชน์ที่ชาวบ้าน หมู่ 8 บ้านสวาย ตำบลราม ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ปัจจุบันพี่น้องทุกภาคของประเทศทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ภาคกลาง ที่มาใช้ประโยชน์ร่วมกันรวมถึงพี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ที่เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าโค-กระบือที่ตลาดนัดของพวกเรา โดยในแต่ละนัดมีโค-กระบือเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนประมาณ 2,500 ตัว มียอดเงินหมุนเวียนในแต่ละนัด 20 ถึง 30 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งประมาณ 100 กว่าล้านบาท แต่ขณะนี้ปัญหาที่เราเจอและหนักใจก็คือเกษตรกรที่เลี้ยงวัวต้นน้ำ คือเลี้ยงแม่พันธุ์โค-กระบือเพื่อเอาลูกเพื่อจำหน่าย ตอนนี้ประสบปัญหาหนักมาก เนื่องจากราคาโค-กระบือตกต่ำเป็นอย่างมาก ก่อนโควิด-19 ระบาดเคยขายได้ตัวละ 30,000 ถึง 40,000 บาท ตอนนี้ขายได้แค่ตัวละ 10,000 กว่าบาท ส่งผลทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือได้รับความลำบาก จึงอยากจะฝากไปยังรัฐบาลให้ช่วยในเรื่องของราคาสินค้าของเกษตรกร

 โดยเฉพาะโค กระบือตอนนี้เดือดร้อนมากๆอยากให้ทางภาครัฐได้หันมาใส่ใจดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องเราด้วย ตอนนี้สัญญาณที่ดีก็คือเรามีพี่น้องจากเพื่อนบ้านทั้งประเทศเวียดนาม กัมพูชา และประเทศมาเลเซีย เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ตลาดนัดของพวกเรา ทำให้สภาพการซื้อขายในตลาดแลดูคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าราคาโค-กระบือยังไม่ดีขึ้นจึงอยากจะฝากให้ทางภาครัฐได้หันมาใส่ใจบรรจุไว้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลสักหนึ่งโครงการก็จะดีมาก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจของเกษตรกรไทย ตนก็ขอเชิญชวนพี่น้องนายฮ้อยทุกภาคของประเทศ และวันนี้ก็มีทั้งมาจากภาคเหนือ จ.พิษณุโลก อุทัยธานีประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สระแก้ว ชลบุรี ราชบุรี และจ.ลพบุรี แล้วก็มีพี่น้องเราจากประเทศด้วยเพื่อนบ้าน
ตลาดนัดโค-กระบือ ตำบลราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เปิดทำการทุกวันจันทร์ เข้าเช้าออกบ่าย ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ของจังหวัดสุรินทร์ เป็นตลาดนัดที่เรียกว่าใหญ่ที่สุดในอิสานใต้ก็ว่าได้ เพราะว่าสินค้าโค-กระบือของอีสานใต้เป็นสินค้าที่ผสมข้ามสายพันธุ์ที่มีคุณภาพดี เลี้ยงง่ายตายยากและโตเร็ว หากซื้อแล้วนำไปขุนก็จะโตเร็วมาก เพราะว่าสายพันธุ์กินเก่งคุณภาพเนื้อดี เป็นที่ต้องการของตลาด นี้คือเสน่ห์ของโค-กระบือพื้นถิ่นอีสานใต้

 นายประยุกต์ บุญสุข กรรมการบริหารตลาดนัด โค-กระบือ กล่าวว่า ตลาดของเรานี้ไม่ใช่ตลาดของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการลงหุ้นของชาวบ้านในเขตตำบลราม ซึ่งตอนนี้มีชาวบ้านที่มาลงหุ้นกันตรงนี้ประมาณ 600 กว่าราย ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดสาธารณะไม่ใช่ตลาดของคนใดคนหนึ่ง
 














©2018 CK News. All rights reserved.