ตำรวจไซเบอร์ จับมือ สคส. PDPC ตั้งชุดไซเบอร์ อาย ปราบปรามการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล


17 เม.ย. 2568, 17:06

ตำรวจไซเบอร์ จับมือ สคส. PDPC ตั้งชุดไซเบอร์ อาย ปราบปรามการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล




วันที่ 17 เม.ย.2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบช.สอท.1 และ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC แถลงความร่วมมือในการปราบปรามการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบเพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ระบุว่า ตามที่มีประกาศตามพระราชกิจจาเกี่ยวกับพรก.ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทาวเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมาโดยในมาตรา 11/2 ได้กำหนดเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ที่ครอบครอง รวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการที่จะมีผู้นำข้อมูลนั้นไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือกระทำผิดกฎหมายอาญาอื่น โดยในวันนี้ท่านเลขา สคส. หรือ PDPC ได้นำทีมงานชุดคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ อีเกิ้ล อาย ของPDPC มาปฏิบัติงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยทางตำรวจไซเบอร์จะมีการตั้งชุดไซเบอร์อายปฏิบัติงานควบคู่กับอีเกิลอาย ที่เปรียบเสมือนตาซ้ายและตาขวาในการป้องกันอาชญากรรมทางออนไลน์ และการเฝ้าระวังการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพี่น้องประชาชนไปใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์หรือ ความผิดกฏหมายอาญาอื่นๆโดยมีพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบช.สอท.1 เป็นผู้แระสานงาน และหัวหน้าชุดไซเบอร์ อาย ที่จะปฏิบัติงานคู่กับ อีเกิ้ล อาย ของ PDPC

ด้านพ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นตั้งแต่มีการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ตั้งขึ้นมาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองข้อมูลของประเทศ ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนอกจากจะมีประโยชน์เกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ สังคมดิจิทัลแล้วยังจะมีประโยชน์ในเรื่องของการสร้างความสงบเรียบร้อยกับสังคมด้วย เนื่องจากปัญหาอาชญากรรมปัจจุบันล้วนมีต้นตอมาจากข้อมูลส่วนบุคคลที่รั่วไหลมีการขายและนำมาใช้ให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของ

ดังนั้น ปัจจุบันได้มีพรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ครอบครอง เก็บรวบรวมเพื่อใช้หรือให้บุคคลอื่นนำไปใช้เกี่ยวกับการกระทำผิดก็จะมีโทษทางอาญา ทาง PDPC จึงมีหน้าที่ปกป้องและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนให้เต็มศักยภาพที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีภารกิจสอดคล้องกับตำรวจไซเบอร์ในการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานทางสังคมว่า การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่ร้ายแรงใครทำก็ต้องรับได้รับโทษ จึงมีการบูรณาการระหว่าง สคส.โดยมีศูนย์ PDPC Eagle Eye กับ Cyber Eye ของตำรวจไซเบอร์ ในการตรวจจับและป้องกันการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ตำรวจไซเบอร์  









©2018 CK News. All rights reserved.