จับชาวอินเดีย แก๊งเรียกค่าไถ่ ชาติเดียวกัน


18 เม.ย. 2568, 17:22

จับชาวอินเดีย แก๊งเรียกค่าไถ่ ชาติเดียวกัน




วันที่ 18 เม.ย.2568 ตำรวจสืบนครบาล ร่วมกับสืบสวนนครบาล 6 และสืบสวน สน. ยานนาวา นำกำลังบุกไปช่วยเหลือชาวอินเดียที่ถูกแก๊งชาวอินเดียจับตัวไปเรียกค่าไถ่ โดยจับผู้เสียหายมัดมือขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่งภายใน ซอยสันติคราม 8 สุขุมวิท 109 เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

ภายในบ้านพบชาวอินเดียกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คน และผู้เสียหาย 3 คน โดยแยกเป็น 2 คดี คือ ผู้เสียหายชาวอินเดีย 2 คน ที่ถูกล่อลวง ไปจากโรงแรมไดมอนด์ เรสซิเด้นท์ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร อีกคดีเป็นผู้เสียหายชาวอินเดีย 1 คน ที่ถูกล่อลวงมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนหน้านึ้

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งความจาก นาย Sanjeev Kumar อายุ 27 ปี สัญชาติ อินเดีย ว่านาย RAMESH SHARMAR และนาย AMANDEEP KAJAL ถูกคนร้ายอุ้มไปเรียกค่าไถ่คนละ 2.5 ล้านรูปี คิดเป็นเงินไทยเกือบ 1 ล้านบาท ตำรวจจึงวางแผนเข้าไปช่วยเหลือผู้เสียหายในวันนี้ (18 เม.ย.68)

สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา นาย RAMESH SHARMAR และนาย AMANDEEP KAJAL จะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม แต่นาย Sanjeev Kumar วีซ่าไม่ผ่าน จึงไม่สามารถเดินทางไปกับเพื่อนได้ โดยวันดังกล่าว มีชายชาวอินเดีย 1 คน เรียกรถแท็กซี่ให้ไปรับ นาย RAMESH SHARMAR และนาย AMANDEEP KAJAL ที่โรงแรม ไดมอนด์ เรสซิเด้นท์ แต่ไม่ได้พาไปขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเวียดนาม แต่กลับพาไปที่เซฟเฮาส์ซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่ง ในซอยสันติคราม 8 จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็ได้ติดต่อไปยังญาติของผู้เสียหายที่ประเทศอินเดีย โดยเรียกเงินค่าไถ่เพื่อแลกกับการปล่อยตัว จากนั้นญาติของผู้เสียหายก็ติดต่อมาที่นาย Sanjeev Kumar ว่าเพื่อนถูกจับเรียกค่าไถ่ จากนั้นนาย Sanjeev Kumar จึงไปแจ้งความตำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือ

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้เสียหายเล่าว่าผู้ก่อเหตุได้มีการขู่ตัดอวัยวะ และทุบตีด้วยไม้พันเทปตามร่างกาย เพื่อติดต่อญาติให้โอนเงินค่าไถ่ให้

นายวิรัตน์ หลักชัย อายุ 53 ปี คนขับแท็กซี่ที่เคยรับผู้ก่อเหตุและผู้เสียหาย ไปส่งที่บ้านเซฟเฮาส์ที่กักขังผู้เสียหาย เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ มีชายชาวอินเดีย 1 คน โบกรถให้ตนเองจอดรับ โดยบอกว่าให้รอสักครู่ เพราะจะมีเพื่อนลงมาแล้วเดินทางไปด้วยกัน จากนั้นก็มีชายชาวอินเดียอีกสองคนพร้อมกระเป๋าเดินทางเดินลงมาจากโรงแรม จากนั้นทั้ง 3 คน ก็ขึ้นรถของตนเอง โดยบอกให้ไปส่งภายในซอยสุขุมวิท 109 ระหว่างทางชายชาวอินเดียทั้ง 3 ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทาง ซึ่ฝตนเองก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดีย แต่ไม่ได้มีการขู่บังคับหรือใช้น้ำเสียงพูดจาที่รุนแรงต่อกันแต่อย่างใด เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ชายชาวอินทั้ง 3 คนก็เดินเข้าบ้านไป โดยไม่มีการบังคับ หรือมีพิรุธแต่อย่างใด

นอกจากนี้ตำรวจยังขยายผลไปจับกุมชายชาวอินเดียอีก 1 คน ที่อยู่ในจังหวัดชลบุรี หลังพบว่าเป็นผู้โทรศัพท์ไปข่มขู่ญาติผู้เสียหายเพื่อให้โอนเงินเรียกค่าไถ่ให้ เบื้องต้นตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งหมดในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันพยายามเรียกค่าไถ่






คำที่เกี่ยวข้อง : #เรียกค่าไถ่  









©2018 CK News. All rights reserved.