วันที่ 19 เม.ย.2568 พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม นายณัฐนนท์ฯ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.379/2567 ลงวันที่ 3 ก.ค.2567
 

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”

สถานที่จับกุม บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากในช่วงประมาณปี 2567 ก่อนเกิดเหตุนายณัฐนนท์ฯ ผู้ต้องหา ได้รู้จักกับผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊ก จึงได้มีการพูดคุยกันเรื่อยมา จนกระทั่งต่อมานายณัฐนนท์ฯ ได้ชักชวนผู้เสียหายให้มีเพสสัมพันธ์ที่ห้องน้ำบริเวณใกล้บ้านผู้เสียหาย ต่อมาเมื่อผู้ปกครองของผู้เสียหายทราบเรื่อง จึงได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามตัวผู้ต้องหาเรื่อยมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับทั่วประเทศ เมื่อทำการสืบสวนจึงทราบว่านายณัฐนนท์ฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้หลบหนีไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม. จังหวัดเชียงราย เพื่อให้ประสานงานกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาซึ่งได้กระทำความผิดกฎหมายหลบหนีไปอยู่ในประเทศเมียนมากลับประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปรับตัวนายณัฐนนท์ฯ ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับให้นายณัฐนนท์ฯ ตรวจสอบและผู้ต้องหายอมรับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา และนำผู้ต้องหาส่ง สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป