สาวกำแพงเพชรร้อง นักการเมืองท้องถิ่นรุกที่ดินสาธารณะ 3 กม. สัญจรไม่ได้


6 พ.ค. 2568, 12:16

สาวกำแพงเพชรร้อง นักการเมืองท้องถิ่นรุกที่ดินสาธารณะ 3 กม. สัญจรไม่ได้




วันที่ 6 พ.ค.2568 จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา น.ส.มะลิ สุดใจ อายุ 56 ปี และครอบครัวชาวนา ผู้เดือดร้อน จากจังหวัดกำแพงเพชร เปิดใจกรณีมีปัญหาที่ดินทางสาธารณะยาวกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านใช้สัญจรมานานกว่า 20 ปี ถูกนักการเมืองท้องถิ่นและญาติที่มีที่ดินสองแปลงรุกล้ำ ทำให้ทางแคบลงจนรถยนต์สัญจรไม่ได้ เคยร้องเรียนหลายหน่วยงานในพื้นที่แล้ว แต่เรื่องเงียบ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากเคยมีข้าราชการผู้ใหญ่เตือนให้ระวังตัว ก่อนจะพาเข้าพบ พงส.กก.4 บก.ป.เพื่อร้องขอความช่วยเหลือต่อไป

น.ส.มะลิ กับญาติพี่น้องร่วมกันเปิดเผย ครอบครัวตนมีที่นาจำนวน 20 ไร่ อยู่ที่ ม.3.ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ทำนาปลูกข้าวสลับกับการปลูกพืชไร่มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าต่อเนื่องกันมาถึงพ่อแม่ จนถึงรุ่นลูกๆ แต่ปรากฎว่าเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา อดีต ส.ท.ตำบลคลองขลุง รายหนึ่งกับญาติพี่น้องเขาได้รับมรดกที่ดินจากพ่อแม่มาได้เอามาแบ่งให้ชาวบ้านเช่าทำกินพร้อมกับปิดกั้นถนนทางเดินสาธารณะที่ชาวบ้านใช้สัญจรเดินทางจากบ้านไปทำไร่นาเส้นทางยาวประมาณ 3 ก.ม. พร้อมปิดประกาศห้ามใครผ่านอ้างว่าเป็นที่ส่วนบุคคล
ซึ่งทางเดินสาธารณะนี้กว้าง 2 เมตร รถยนต์ขับผ่านเข้าออก ชาวบ้านในหมู่บ้านใช้สัญจรมานานกว่า 20 ปี
ตนกับครอบครัวได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.คลองขลุง และ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร โดยผู้ว่าจังหวัดกำแพงเพชรได้เรียกที่ดินจังหวัดมาชี้แจง ในที่ประชุมระบุว่าเป็นที่สาธารณะ ไม่สามารถปิดกั้นได้
แต่เมื่อที่ดินจังหวัดลงไปตรวจสอบ กลับเปลี่ยนเส้นทางสาธารณะจากทางเดินเดิม เป็นลำรางน้ำที่อยู่ใกล้กันแทน ซึ่งไม่สามารถเดินสัญจรได้
ส่วนชาวบ้านคนอื่นที่เดือดร้อนใช่วิธีขับรถหรือเดินอ้อมไปเข้าที่นาเส้นทางอื่นแทน
ตนและครอบครัวต่อสู้ร้องเรียนมาตลอด 7-8 ปี ร้องเรียนหลายหน่วยงานในพื้นที่ เรื่องก็เงียบ และตนเกรงว่าจะได้รับอันตรายเนื่องจากเคยมีราชการผู้ใหญ่เคยเตือนในตอนที่ไปร้องขอความเป็นธรรมว่า เวลากลับบ้านให้ระวังตัวให้ดี จากความเดือนร้อนที่ได้รับจึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบในความผิดเกี่ยวกับที่ดิน

จึงมาร้องขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ พาเข้าแจ้งความที่กองปราบฯ  ในความผิดเกี่ยวกับที่ดิน (ทำให้เสื่อมสภาพที่ดินของรัฐ) และเรื่องความปลอดภัย
การที่จ่าคิงส์ แตงทิม พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่กองปราบ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับเรื่องและดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายและชาวบ้านในพื้นที่ และแก้ไขปัญหาที่ดินถูกรุกล้ำนี้ได้โดยเร็วที่สุด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบรายละเอียดจากผู้เสียหายแล้วก่อนจะแนะนำให้ไปร้องพนักงานสวน บก.ปทส.ที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับการรุกล้ำที่สาธารณะ โดยตรงต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #รุกที่ดิน  









©2018 CK News. All rights reserved.