วันที่ 18 พ.ค.2568 พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง สว.กก.ดส, ร.ต.อ.กิตติกานต์ สินประกอบ รองสว.กก.ดส. และชุดสืบสวน กก.ดส. ร่วมกันจับกุม นายธีรเดช และนายชัยพัชร จับกุมได้ห้องเลขที่ 107 โรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
ข้อหาเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของ ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึงบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือ
นอกราชอาณาจักร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดังกล่าวได้รับแจ้งข่าวจากสายลับประสงค์รางวัลนำจับว่ามี นายธีรเดช ได้เป็นผู้เป็นธุระจัดหา โดยลักลอบให้บริการทางเพศ โดยการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยสายลับนั้นสามารถ ติดต่อล่อซื้อบริการทางเพศดังกล่าว ได้ผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ได้ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อวางแผนการจับกุม ต่อมาได้วางแผนกับสายลับจำนวน 2 นาย ได้ทำการล่อซื้อบริการค้าประเวณี และได้ตกลงซื้อบริการค้าประเวณี โดยเป็นค่าบริการทางเพศในราคาคนละ 800 บาท และค่าเป็นธุระจัดหาในราคา 1,000 บาท โดยให้ชำระค่าบริการทั้งหมดผ่านผู้ต้องหา
ในส่วนของค่าตัวเด็กนั้น ผู้ต้องหาจะเป็นผู้ตกลงจัดการแบ่งให้เด็กที่เหลือเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเพื่อบันทึกเลขธนบัตรสำหรับใช้ในการล่อซื้อและได้ส่งมอบให้สายลับเข้าทำการล่อซื้อบริการ ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดหมายสายลับได้เดินทางไปพบกับ นายธีรเดช เพื่อใช้บริการทางเพศตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจคอยซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้เคียง พบว่ามีผู้ให้บริการจำนวน 2 ราย จากนั้นสายลับได้ส่งมอบเงินค่าบริการให้แก่ผู้ต้องหา และได้ถ่ายภาพประกอบส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจสอบ เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาพาบุคคลมาให้บริการจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ได้ไปเคาะห้องพักดังกล่าว
โดยได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอเข้าทำการตรวจค้นพบ นายธีรเดช พร้อมกับ นายชัยพัชร นั่งถอดเสื้อพร้อมให้บริการสายลับอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอทำการตรวจค้น จากการตรวจพบว่าธนบัตรมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 2 ใบ รวมมูลค่า 2,000 บาท อยู่ภายในกระเป๋าเก็บเงิน และนายธีรเดชพบมีธนบัตรมูลค่า 1,000 บาท 1 ใบ รวมมูลค่า 1,000 บาท จากการสอบสวนผู้ต้องหากระทำดังกล่าวจริงพาเพื่อนมาค้าประเวณี
เบื้องต้นแจ้งข้อหานายธีรเดช “สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ตาม และ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใตเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร” ส่วนนายชัยพัชร ถูกแจ้งข้อหา “เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการของตนเองหรือผู้อื่น” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
©2018 CK News. All rights reserved.