วันที่ 19 พ.ค.2568 เครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรีกว่า 300 คน รวมตัวจัดกิจกรรมแสดงพลังคัดค้านการขยายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มายังจังหวัดปราจีนบุรี ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมประกาศเจตนารมณ์ “ไม่เอา EEC” อย่างเป็นทางการ
ตลอดช่วงเช้า ตัวแทนจากเครือข่ายฯ ได้สลับกันขึ้นเวทีไฮปาร์ค แสดงความกังวลถึงผลกระทบจากพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะในประเด็นสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของประชาชน และความเหลื่อมล้ำที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายพื้นที่ EEC สู่จังหวัดปราจีนบุรี
เวลา 10.30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมพิธีสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 เพื่อขอพระบารมีคุ้มครองชาวปราจีนบุรีให้พ้นจากภัยมลพิษอันตราย และขออย่าให้พื้นที่นี้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของกฎหมาย EEC
จากนั้น เครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง ได้อ่านแถลงการณฺ โดยระบุเหตุผลหลัก 7 ข้อในการคัดค้านการนำจังหวัดปราจีนบุรีเข้าสู่พื้นที่ EEC ได้แก่:
1. กฎหมาย EEC สร้างความเหลื่อมล้ำสุดขั้ว เอื้อผลประโยชน์ต่อนายทุนต่างชาติ ด้วยมาตรการส่งเสริมเกินสมควร
2. เกิดจากยุครัฐประหาร ใช้อำนาจพิเศษ (ม.44) ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
3. บริหารจัดการล้มเหลว โดยเฉพาะด้านมลพิษและกากอุตสาหกรรมที่ควบคุมไม่ได้จนเป็นปัญหารายวัน
4. เป็นช่องทางธุรกิจสีเทา และละเลยความรับผิดชอบต่อประชาชนในหลายมิติ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน
5. มองข้ามฐานทรัพยากรและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยให้เศรษฐกิจนำหน้า ทั้งที่ผลประโยชน์ไม่ได้ตกกับประชาชนในพื้นที่
6. ขาดการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายเดิม ที่ใช้มากว่า 5 ปี ก่อนขยายพื้นที่ใหม่
7. ประชาชนควรมีสิทธิ์ตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน ด้วยความเข้าใจเนื้อหากฎหมายทุกมาตรา
เครือข่ายฯ ยังเน้นย้ำว่า การคัดค้านครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงออกเฉพาะกิจ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ในทุกมิติ เพื่อหยุด “ภัยคุกคาม” ที่อาจมากับกลไกของ EEC โดยจะร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศ เพื่อยกระดับประเด็นนี้ให้เป็น “วาระประชาชน” และร่วมกัน “หยุดขบวนการยกปราจีนให้กับนายทุนจีน”
“พวกเราจะไม่ยอมให้บ้านเกิดต้องแลกความเจริญกับมลพิษและการลิดรอนสิทธิของประชาชน ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ประกาศเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย“ เนื้อหาแถลงการณ์ระบุ
©2018 CK News. All rights reserved.