วันที่ 20 พ.ค.2568 พ.ต.ท.สุขสิทธิ์  ประเสริฐ  สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.5 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายทวีฯ อายุ 51 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2090/2568 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิด หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน“ สถานที่จับกุม บริเวณสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์  ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเล่นโซเชียลทางมือถืออยู่ที่บ้านพัก ได้เข้าไปอ่านข้อความในกลุ่มไลน์โอเพ่นแชทชื่อกลุ่ม “โปรไฟลุก” มีการโพสต์ข้อความเชิญชวนทำงานออนไลน์ หากสนใจให้แอดไลน์สอบถามรายละเอียด ผู้เสียหายสนใจอยากหารายได้พิเศษ จึงได้แอดไลน์ทักไปที่แอดมิน แจ้งว่า “สนใจงานเสริมค่ะ” แต่นั่นเป็นไลน์ของคนร้าย ต่อมาทางแอดมินได้แจ้งให้ทราบว่างานที่จะให้ทำเป็นงานช่วยร้านค้ายืนยันรายการสั่งสินค้าของสินค้าแบรนด์เนมยี่ห้อต่างๆ โดยหลอกให้ผู้เสียหายลงทะเบียนตามขั้นตอนที่แอดมินแนะนำ เป็นการลงทะเบียนที่เว็บไซต์ตามลิงก์ที่แอดมินส่งมาให้ เมื่อผู้เสียหายเข้าไปลงทะเบียนแล้ว จะต้องเข้าไปทำงานด้วยการกดรับออเดอร์สินค้าให้กับร้านค้าจนครบ 40 ออเดอร์ ซึ่งตามข้อตกลงจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 50,000 บาทเศษ 

เมื่อทำแล้ว ผู้เสียหายต้องการถอนเงินรายได้ดังกล่าว ปรากฏว่าทางแอดมินของระบบแจ้งว่าผู้เสียหายทำผิดระเบียบบริษัทต้องโอนเงินเข้าไปในระบบก่อน จึงจะถอนเงินรายได้จากการทำงานได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินเข้าไปครั้งแรกไปที่บัญชีธนาคาร ที่แอดมินให้มา เป็นชื่อของนายทวีฯผู้ต้องหารายนี้ ต่อมาทางแอดมินแจ้งว่าผู้เสียหายทำผิดขั้นตอนอีก ต้องโอนเงินค่าธรรมเนียมเข้าไป เพื่อแก้ไขระบบอีกหลายครั้งรวมเป็นเงินกว่า 5 แสนบาท สุดท้ายผู้เสียหายเงินหมดต้องไปขอยืมเงินญาติจนถูกทักท้วงว่าถูกหลอกหรือเปล่า จึงได้สติ รู้ตนเองน่าจะถูกหลอก จึงติดต่อแอดมิน ขอเงินของตนเองคืน ระบุไม่ขอรับค่าตอบแทนจากการทำงานแล้ว ซึ่งทันทีที่บอกแบบนั้นก็ไม่สามารถติดต่อแอดมินได้อีกเลย  

จากนั้นผู้เสียหายเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายที่หลอกลวงให้โอนเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ และตำรวจกก.5 บก.ป. สามารถติดตามตัวจับกุมมาได้ในที่สุด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ตรวจสอบประวัติพบมีคดีที่ไปเปิดบัญชีม้า อีก 2 หมายจับด้วย
 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายทวีฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างตัดไม้ที่ จ.ตรัง  ต่อมามีคนรู้จักมาชักชวนให้เปิดบัญชีอ้างว่านำไปใช้ขายของออนไลน์ให้บัญชีละ 1,000 บาท นายทวีฯ อ้างว่ามีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว จึงไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆมา 5 บัญชี ได้เงินมา 5,000 บาท ต่อมามีหมายเรียกตำรวจมาที่บ้านพักหลายใบ เกรงว่าจะถูกจับกุมจึงเดินทางมาหางานทำที่กรุงเทพฯ กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด