วันที่ 21 พ.ค.2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.)เดินหน้ายกระดับการให้สิทธิผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ป่วยด้วยโรคไต ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ประกันตนเป็นอันมาก และยังเป็นโรคเรื้อรังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องได้รับการดูแลรักษาไปตลอดชีวิตทาง สปส. ได้ให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ป่วยด้วยโรคไตทุกระยะสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้ประกันตนป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายทั้งหมด 84,750 ราย โดย 64,515 รายฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และ 20,235 ราย ล้างไตผ่านช่องท้อง
นายคารม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตทุกระยะสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ กรณีผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย สามารถรับสิทธิกรณีการบำบัดทดแทนไต ดังนี้
1. การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้สิทธิในอัตราไม่เกิน 1,500 บาท ต่อครั้ง และไม่เกิน 4,500 บาท ต่อสัปดาห์ (เดือนละ 18,000 บาท) และจ่ายค่าเตรียมหลอดเลือดหรือสายสวนหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ครอบคลุมค่าใช้จ่ายตามรายการหัตถการและรายการเวชภัณฑ์ที่สำคัญ ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงตามอัตราที่กำหนด ไม่กำหนดกรอบระยะเวลา
2. กรณีผู้ประกันตนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ติดเชื้อเอชไอวี จะจ่ายค่าฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมให้แก่สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,000 บาทต่อครั้ง และไม่เกิน 12,000 บาทต่อสัปดาห์
3. การล้างช่องท้องด้วยน้ำยาอย่างถาวร ให้สิทธิไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท และจ่ายค่าวางท่อรับส่งน้ำยาเข้าออกช่องท้องพร้อมอุปกรณ์ ในอัตราไม่เกิน 20,000 บาทต่อราย ต่อระยะเวลา 2 ปี หากภายในระยะเวลา 2 ปี ผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องวางท่อรับส่งน้ำยาล้างช่องท้อง จ่ายเพิ่มอีกไม่เกิน 10,000 บาท
4. การล้างช่องท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ ให้สิทธิในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 32,700 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ประกันตนที่มีความพร้อมในการทำการล้างช่องท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ
5. การปลูกถ่ายไต ให้ได้รับสิทธิการบริการทางการแพทย์ ก่อน ระหว่าง หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไต และรับยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต
สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตทุกระยะสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สำหรับผู้ประกันตนที่ประสงค์จะใช้สิทธิบำบัดทดแทนไต จะต้องยื่นขอรับการอนุมัติก่อนที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ โดยเตรียมเอกสารประกอบ ได้แก่ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีบำบัดทดแทนไตและปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการดูแลหลังผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะและรับยากดภูมิคุ้มกันกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-18) สำเนาเวชระเบียนในส่วนที่เกี่ยวข้อง ใบรับรองแพทย์กรณีผู้ประกันตนขอรับการบำบัดทดแทนไต หนังสือรับรองจากอายุรแพทย์โรคไต สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีผู้ประกันตนต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ต้องมีสำเนาหนังสือเดินทาง Passport หรือหนังสือสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม สามารถยื่นขอผ่านสถานพยาบาลที่ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม โดยตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.sso.go.th หรือสอบถามที่สำนักงานประกันสังคมหรือสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
©2018 CK News. All rights reserved.