วันที่ 24 พ.ค.2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าภายหลังจากที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเดินหน้านโยบาย “Thailand Zero Dropout” เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่เส้นทางการเรียนรู้ โดยนายกฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาสามารถกลับมาระบบการศึกษาได้ทันที

นายคารม กล่าวว่า  กระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ระดับชาติ (คกส.) ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษากลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ระดับจังหวัดขึ้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา และให้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด พร้อมทั้ง สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าร่วมการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งอาจใช้คณะกรรมการที่มีอยู่เดิมหรือแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนในระดับท้องถิ่นเป้าหมายสำคัญ คือ เพื่อไม่ให้มีเด็กและเยาวชนคนใด “สูญหาย” จากการดูแลของหน่วยงานรัฐ  ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการดูแลเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านการจัดการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีคุณภาพ

“รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ มุ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมมาตรการดังกล่าว จะเกิดผลดีต่อการสำรวจติดตามค้นหาเด็กตกหล่นในพื้นที่ได้ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกันในชุมชน และจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าจะต้องพาเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ 1,000,000 คน ภายในปีงบประมาณ 2570” นายคารมกล่าว