กองปราบฯ จับกุมมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท


6 มิ.ย. 2568, 11:42

กองปราบฯ จับกุมมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท




วันที่ 6 มิ.ย.2568 พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว. กก.5 บก.ป., ด.ต.โสภณ เก็งฮะ, จ.ส.ต.สรณ์สรัณ ชัชชัยพรธวัล, ส.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์ดี ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายรัชต์ศิษฎ์ฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 701/2568 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูล คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, และผู้ใดเปิดหรือยินยอม
ให้บุคคลอื่นใช้บัญชีฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือ
เพื่อกิจการของตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช่หรือยอมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้อง คอนโดแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ อ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงิน พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือจะถูกดำเนินคดี ผู้แอบอ้างหลอกให้ผู้เสียหายแอดไลน์ และส่งเอกสารที่มีตราครุฑมาให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ต่อมาผู้เสียหายถูกหลอกให้ย้ายไปพักที่โรงแรม เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นรับรู้การ “สอบสวน” จากนั้นมีการวิดีโอคอล พร้อมกล่าวหาว่าผู้เสียหายเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องหาคดียาเสพติด และให้ถอดเสื้อผ้าเพื่อ “ตรวจสอบร่องรอย” อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวน ผู้แอบอ้างยังอ้างเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ทางไลน์ พร้อมทั้งขอข้อมูลบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตของมารดาผู้เสียหายอีกด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินรวม 18 ครั้ง 14 บัญชี เป็นเงิน 3,292,127.92 บาท
ซึ่งโอนบัญชื่อ นายรัชต์ศิษฎ์ฯ (ผู้ต้องหา) ผู้เสียหายได้โอนเงินไป 1ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 249,897 บาท  ต่อมาตนจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับมารดา จึงได้มาคิดทบทวนแล้วเชื่อว่าตนน่าจะถูกหลอกลวง
เพื่อหลอกเอาเงินตนไป ผู้เสียหายจึงได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายรัชต์ศิษฎ์ฯ ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบ นายรัชต์ศิษฎ์ฯ ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุมข้างต้น จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามชื่อ-สกุล มีชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชนตรงกับรายละเอียดของผู้ต้องหาในหมายจับดังกล่าวข้างต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ นายรัชต์ศิษฎ์ฯ ดู อ่านให้ฟังและอ่านเองแล้ว นายรัชต์ศิษฎ์ฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบและแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบ นายรัชต์ศิษฎ์ฯ ได้รับทราบข้อความทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งเข้าใจสิทธิของตนเองโดยตลอดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำการบันทึกจับกุม จากนั้นนำตัวส่ง พนักงานสอบสวนท้องที่ ที่ถูกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






คำที่เกี่ยวข้อง : #กองปราบ  









©2018 CK News. All rights reserved.