วันที่ 12 มิ.ย. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมแพทยสภาว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาความเห็นของตน ที่ได้ยับยั้งมติการลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน เพื่อจะลงมติว่ายังยืนยันความเห็นเดิม ต่อไปหรือไม่ ซึ่งตนในฐานะสภานายกพิเศษ ก็จะใช้อำนาจตามมาตรา 24 ของพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ที่ระบุให้สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุม และชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการ หรือจะ ส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังแพทยสภาในเรื่องใดๆ ก็ได้ และขอเท้าความว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 คณะกรรมการแพทยสภาลงมติลงโทษหมอ 3 คน 1.พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ ถูกสั่งลงโทษว่ากล่าว ตักเตือน 2.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ถูกสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 3.พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ถูกสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามกฎหมาย มาตรา 25
“ดังนั้น การลงโทษ ต้องเสนอเรื่องให้สภานายกพิเศษแพทยสภา เห็นชอบ ตามมาตรา 25 ซึ่งตนมีเวลาในการพิจารณาเพียง 15 วัน หลังจากแพทยสภาเสนอเรื่องมา จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อช่วยทบทวนมติดังกล่าว เนื่องจากมีเวลาสั้น และตนไม่ได้เชี่ยวชาญ ด้านกฎหมาย แต่ว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากนั้นได้มีการเรียกเอกสารเพิ่มเติมจากแพทยสภาไปอีก 3 ครั้ง มีทั้งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ที่ไม่ได้คือเอกสารการ พิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม ด้วยเวลาที่จำกัด จึง พิจารณาตามเอกสารที่มี และวีโต้มติแพทยสภากลับไป ตามอำนาจในมาตรา 25 พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ซึ่งชี้แจงเหตุผลว่าทำไมแพทย์ไม่ควรถูกลงโทษ ดังนั้น วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่กรรมการแพทยสภาจะได้รับฟังเหตุผลและทำความเข้าใจในรายละเอียด ที่ตนใช้อำนาจ ยับยั้งมติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่จะพิจารณาลงมติวันนี้ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ตนเดินทางมาร่วมประชุม เพื่อชี้แจงด้วยตัวเอง
“ช่วงเวลาที่ผ่าน ผมถูกโจมตี ทั้งถูกข่มขู่จะให้แพทย์ลงชื่อถอดถอนผมจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปจนถึงจะให้ ป.ป.ช. มาเอาผิด แม้กระทั้งเมื่อวานนี้ ยังมีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มมากดดันผมถึงกระทรวงสาธารณสุข และให้กำลังใจแพทยสภา รวมทั้งกล่าวหาผมว่าจะเข้าร่วมประชุมเพื่อกดดันมติแพทยสภา ทั้งที่ตามมาตรา 24 ของพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมฯ ให้อำนาจไว้ ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำผมยืดหลักกฎหมาย แต่การกล่าวหานั่นต่างหากคือการบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดในตัวผมเป้าหมายการทำหน้าที่ของผม ไม่ใช่เพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เพื่อเป็นการคุ้มครองและให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ที่ถูกลงโทษ และคงไว้ซึ่งมาตรฐานการลงโทษที่เหมาะสมและควรจะเป็นเท่านั้น” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ การทำหน้าที่ของแพทยสภาในสายตาประชาชน ก็สะท้อนออกมาจากผลสำรวจความคิดเห็นจากนิด้าโพลพบว่า 38.40% ไม่ค่อยเชื่อมั่น 15.95% ไม่เชื่อมั่นเลย ซึ่งเท่ากับไม่มีความเชื่อมั่นกว่า 54% จึงขอให้การทำงานในวันนี้ ยึดความเป็นธรรมใน วิชาชีพ เราต้องเรียกความศรัทธาของประชาชนและสังคมกลับมาให้ได้อย่าปล่อยให้สังคมมองว่าเราไม่มีความเป็นธรรม หรือใช้องค์กรเพื่อทำลายวิชาชีพกันเอง
©2018 CK News. All rights reserved.