วันที่ 22 มิ.ย.2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้นัดหมายมาดูจุดการชุมนุม ซึ่งจะเบือกที่บริเวณเกาะกลางของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในการนัดชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ และพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับตำรวจนครบาล

โดยนายจตุพร ได้กล่าวว่าสนประวัติศาสตร์ที่กลุ่มนักศึกษาไปเรียกร้องอธิปไตย ในสมัย ยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ตอนนั้นก็มีกฎหมายห้ามในการชุมนุม ในการรวมตัวเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลขณะนั้นรู้ว่านี่เป็นการแสดงพลังในการปกป้องอธิปไตยของชาติยินยอมยกเว้นแถมได้กล่าวขอบคุณนักศึกษาและประชาชนในตอนนั้น  แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่เหมือนตอนนั้น  เพราะการสั่งการของตำรวจโดยรัฐบาล ได้พยายามงัดข้อกฎหมายทุกชนิดมาเล่นงานการชุมนุม

แต่ประเทศของเรานั้นมีปัญหาที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ที่นายกรัฐมนตรีของไทยไปเจรจากับ ประธานวุฒิสภา ปนะเทศกัมพูชา  ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงของกัมพูชา ได้แสดงให้เห็นว่าเราไม่อาจไว้วางใจให้เขาทำหน้าที่ได้ต่อไป ฉะนั้นเราควนจะมาเริ่มต้นกัน ไม่ควรให้อับอายคนกัมพูชา

และที่มีการตั้งคำถามว่าคนจะออกมาร่วสชุมนุมหรือไม่ในยุคโซเชียลมีเดีย ตนขอเรียนว่า คนกัมพูชาเค้าก็อยู่ในโซเชียล แต่เรื่องความรักชาติบ้านเมือง ที่เขาทีประชาชน17 ล้านคนทั้งประเทศ แต่กลีบออกมาร่วมชุมนุมแสดงควาทรักขาติถึง 1.5 แสนคน ฉะนั้นประเทศเราที่เป๋นชาติเอกราชชาติเดียวในภูมิภาคนี้ต้องออกมาสำแดงพลังอย่าให้อาย

นายจตุพร ยืนยันว่าการมาปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร แต่ไอ้ที่มีการปั่นไม่ให้ออกมานั้น บอวก่าเป็นพวกหน้าเก่าหน้าเดิม ผมต้งอบอกว่าการปกป้องอธิปไตย วนครุง้นั้นคือคนรุ่นใหม่ ที่มาทำหน้าที่ แต่รัฐบาลไทยเวลานี้ยอกจากไม่สนับสนุนแต่ยังขัดขวาง พยานามใส่ร้าย บอกพวกที่ชุมนุมคือพวกหน้าเดิม ผมขอบอกเลยนะครับว่า ประเทศนี้มันก็ประเทศเดิม ปัญหาก็ปัญหาของชาติ ทักษิณก็หน้าเดิม การจะมาชุมนุมปกป้องมันต้องำปศัลกรรมใหม่หรือยังไง ไม่ว่าจะรุ่ยใหม่รุ่ยเก่า แต่ถ้าไม่ปกป้องชาติ รุ่นไหนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ตนจึงขอเชิญพี่น้องประชาชนทั้งแผ่นดินมาร่วมชุมนุมที่นี่ เวทีจะเริ่มต้น 4 โมงเย็น ปิด 21.00 น. แต่ถ้ามาก่อนในช่วงบ่ายโมงจะมีศิลปินมาจัดกิจกรรมบรรเลงเพลง จากนั้น 16.00 เวทีจะเริ่ม ซึ่งผมหวังว่าจะไม่มีรัฐบาลขายชาติมาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานอื่นใดมาขัดขวาง

นายจตุพร ตอบคำถามถึงกรณีกังวลเรื่องมือที่สามหรือคงามรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ ว่า ในวันพรุ่วนี้ที่จะไปหารือกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็จะมีการตั้งจุดตรวจสอบร่วมกัน สำหรับบุคคลที่จะเข้ามาในพื้นที่เพื่อร่วมกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อป้องกันมือที่3 และเท้าที่4 ก็คงไม่รอด ส่วนเรื่องเงินในบัญชีที่จะเปิดรับบริจาค จะเปิดแค่วันที่28 มิ.ย.แล้วปิดบัญขีเลย ถ้าเงินเหลือก็จะนำไปบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า วันนี้ทางกลุ่มได้เดินทางมาดูสถานที่เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยว่ามีการจัดเวทีในที่สาธารณะ ซึ่งสาเหตุที่เลือกตำแหน่งนี้เนื่องจากต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสร้างขึ้น เพื่อเป็นการประกาศว่าประเทศไทยมีเอกราชสามารถทวงคืนแผ่นดินได้จากข้อพิพาทระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันนายปานเทพ ยังอ้างว่าขณะนี้มีขบวนการเตะตัดขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ข้อกฎหมายในด้านต่าง ๆ มาดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ แต่ยืนยันว่าการชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชุมนุม ส่วนเงินที่ได้มาใช้ในการจัดการชุมนุมนั้น ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มของตัวเองและหลังจากนี้จะมีการเปิดบัญชีเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลัง สำหรับกิจกรรม ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ จะเริ่มช่วงเวลาตั้งแต่ 14:00 น. ก่อนที่เวลา 16:00 น. จะเริ่มอย่างเป็นทางการไปจนถึงเวลา 21:00 น.  ซึ่งในวันดังกล่าวก็จะมีการปราศรัยสลับกับเล่นดนตรี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ บอกด้วยว่า การจุดกิจกรรมจะมีทางเดินสำหรับรถเมล์ และรถพยาบาลแน่นอน และมีวงนอกสำหรับรถที่จำเป็น พร้อมขออภัยประชาชนที่ทำให้ไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องทำ ขออภัยในความเดือดร้อนจริงๆ และขอให้พี่น้องเข้าใจเพราะนี่เป็นปัญหาของประเทศชาติ ไม่รู้นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อหรือไม่แต่วางใจไม่ได้ ไม่รู้ฮุนเซนกุมความลับแล้วโทรต่อรองอะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นงานนี้ไม่ใช่แค่งานไล่นายกฯ แต่เป็นงานปกป้องอธิปไตย ถ้าไว้วางใจไม่ได้ก็ต้องลาออก และยืนยันจะไม่ได้ยึดโน้นยึดนี่แน่นอน

ส่วนเมื่อวานที่มีการสั่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยืนยันว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจะเป็นผู้เปิดบัญชีรับบริจาค และคงต้องใช้เงินพอสมควรเพราะจะมีจอหลายจุด และมีความโปร่งใสแน่นอน

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ระบุด้วยว่า ในขั้นตอนกระบวนทางกฎหมาย ของคณะรวมพลังแผ่นดิน ในพรุ่งนี้เวลา 10.00น. คณะรวมพลังแผ่นดินจะเดินทางไปพูดคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลน เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายและร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจรและการใช้ชีวิตกับประชาชน จึงขอเรียนไปทางรัฐบาบด้วยว่า เรื่องนี้ดูเหมือนจะคล้ายการชุมนุมแต่ไม่ใช่ เพราะเป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่พ.ร.บ.การชุมนุม เพราะพ.ร.บ.การชุมนุม เป็นการยื่นข้อเรียกน้อง แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขออะไรจากรัฐบาล แต่เป็นการมาแสดงพลัง ดังนัเนตำรวจจึงไม่มีสิทธิว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ชุมนุม แต่ต้องอำนวยความสะดวกว่าจะให้ปฏิบัติตรงไหนอย่างไร และทางกลุ่มฯจึงขอแจ้งประชาชนที่จะมาร่วมกิจกรรมว่าสามารถดำเนินการได้