มติศาลรธน. 7 ต่อ 2 รับคำร้องสว.สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ คดีคลิปเสียง"ฮุน เซ็น"


1 ก.ค. 2568, 14:18

มติศาลรธน. 7 ต่อ 2 รับคำร้องสว.สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ คดีคลิปเสียง"ฮุน เซ็น"




วันที่ 1 ก.ค.2568 ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗ (๔) ศาลรัฐธรรมนูญญมีมติเป็นเอกฉันท์ มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

แจ้งผู้ร้องทราบ และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมญว่า


ด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๔  สำหรับคำขอให้สั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก  (๗ ต่อ ๒) เห็นว่า ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคสอง มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนับแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘  เป็นต้นไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย แจ้งให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทราบ


ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน ๒ คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์   และนายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ยุติชัดเจน ให้ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้อง  มีกรณีตามที่ถูกร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคสอง แต่เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก่ไขเยียวยาในกายหลัง ให้ใช้มาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินัจฉัยตาม
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗๑ ห้ามมิให้ผู้ร้องใช้ หน้าที่และอำนาจด้านความมั่นคง ด้านการต่างประเทศ และต้านการคลัง จนกว่าศาลรัฐธรรมญูจะมีคำวินิจฉัย (๕) ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธธธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔) ประกอบมาตรา ๑๖๐ (๔) และ (๕) หรือไม่  (เรื่องพิจารณาที่ ๘/๒๕๖๘)

สมาชิกวุฒิสภาเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) โดยกล่าวอ้างว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้งสอง  มีมตีให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.ศ. ๒๕๔๗   และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๒๑ วรรคหนึ่ง (๒) เป็นการแทรกแชงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของ   คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือก
สมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการกลันแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัติญัติ





คำที่เกี่ยวข้อง : #นายกรัฐมนตรี  









©2018 CK News. All rights reserved.