วันที่ 10 ก.ค.2568 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พร้อมด้วยพ.ต.ท.เดชา พรมโสภา สว.สส.สน.พระราชวัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวพรทิพย์ หรือ ทิพย์ คันธรักษ์ อายุ 56 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลาง เงินสดจำนวน 6,000 บาท ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ คีย์การ์ดห้องพักของโรงแรม 1 ใบ บัตรเครดิตการ์ด จำนวน 4 ใบ กระเป๋าสตางค์หนัง สีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง พาสปอร์ต 4 เล่ม บัตรเครดิต วีซ่า ธนาคาร  1 ใบ บัตรเครดิต 1 ใบ บัตรประจำตัวประชาชน Nattional Identity Card  1 ใบ ซองหนังใส่บัตร จำนวน 1 ชิ้น กระเป๋าหนังสะพายข้าง ยี่ห้อ Tommy Hilfiger สีดำ จำนวน 1 ใบ ซึ่งเป็นของผู้เสียหายทั้งหมด และ กระเป๋าสะพายย่ามสีขาว จำนวน 1 ใบ ของผู้ต้องหา 1 ใบ โดยจับกุมได้บริเวณ ท่าเรือท่าเตียน แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 15.00 ที่ผ่านมา ( 9 ก.ค. ) 

ก่อนการจับกุมขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง กำลังออกปฎิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ พี้อมครอบครัว เข้าแจ้งความว่ากระเป๋าสะพายข้างสีดำ ซึ่งมีทรัพย์สินภายในจำนวนมากซึ่งวางอยู่บริเวณน้ำพุหน้าวิหารพระนอน ในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) และกำลังถ่ายรูปครอบครัวกันอยู่ได้หายไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวน และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ จนพบว่าเวลาประมาณ 14.33 น. ได้มีหญิงต้องสงสัย อายุประมาณ 40-50 ปี รูปร่างเล็ก ผิวดำแดง สวมเสื้อยืด คอกลม สีกรมท่า มีอักษรภาษาอังกฤษ สีส้ม ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สวมกางเกงยีนส์ขายาว และ รองเท้าแตะส้นสูงสีดำ พร้อมกระเป๋าสะพายย่ามสีขาว ได้เดินเข้าไปนั่งบริเวณ น้ำพุ ใกล้จุดที่ผู้เสียหายได้วางกระเป๋าสะพายข้างสีดำไว้ จากนั้นแอบลักกระเป๋าสะพายข้างสีดำของผู้เสียหายไปและได้เดินหลบหนีออกไปทางท่าเตียน ซึ่งจากพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงเชื่อได้ว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นคนร้ายที่ได้ก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีอย่างต่อเนื่อง จบพบตัวหญิงต้องสงสัยคนดังกล่าวนั่งอยู่บริเวณท่าเรือท่าเตียนจึงได้เข้าไปแสดงตัวขอเข้าตรวจสอบ ทราบชื่อนางสาวพรทิพย์ หรือ ทิพย์ คันธรักษ์ อายุ 56 ปี และจากการสอบถามเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุแอบลักกระเป๋าสะพายข้างสีดำของนักท่องเที่ยวไปจริง ซึ่งหลังที่ได้ก่อเหตุได้เดินไปยัง บริเวณ ลานต้นโพธิ์ ข้างวิหารพระนอน แล้วได้คัดแยกทรัพย์สินของมีค่าออกมา ส่วนกระเป๋าสะพายข้างสีดำได้ทิ้งไว้ในบริเวณลานต้นโพธิ์ แล้วเดินมาที่ท่าเรือเพื่อจะเดินทางไป โรงพยาบาลศิริราช แต่ถูกตามจับ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบเคยถูกจับกุมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ครั้งซึ่งครั้งล่าสุดถูกจับกุมหลังก่อเหตุลักทรัพย์ นักท่องเที่ยวภายในวัดแห่งนี้ เมื่อกลางปี 67 และเพิ่งพ้นโทษออกมาช่วยมีนาคม 68 แล้วกลับมาก่อเหตุในสถานที่เดิน และถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ชุดเดิมอีกครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป