วันที่ 21 ก.ค. 2568 พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พ.อ.พิรุฬห์สิระ เอี่ยมมาลา ผู้บังคับหน่วยข่าวกรองทางทหาร สนับสนุนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ น.อ.วิสูตร งิ้วแหลม รองผู้บังคับทหารอากาศดอนเมืองและ พันเอก วิชัย ก้องเดชตรีวุธ ผู้แทนหัวหน้าฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน คีตามีน 150 กก. ไอซ์ 5 กก. เหตุเกิดที่ โกดังเก็บพักยาเสพติดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ขยายผลตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหารวม 5 จุด (จ.สมุทรปราการ, จ.พะเยา) ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิเช่น รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำ เงินในบัญชีธนาคาร และเงินสด รวมมูลค่าประมาณ 3,350,000 บาท
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า ที่มาของการจับกุมคดีนี้สืบเนื่องจาก สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ชาวเมียนมา (นาย ไอ ยี่ ซอ) มีพฤติการณ์ในระดับผู้สั่งการ และจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านให้บุคคลในเครือข่ายลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 สำนักงาน ป.ป.ส. จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมเฮโรอีน 91.7 กก. ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ เหตุเกิดที่ โกดังในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยึดทรัพย์สินมูลค่า 5.5 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ นาย ไอ ยี่ ซอ กับพวกรวม 6 คน ในฐานะผู้สั่งการ/ผู้ร่วมขบวนการ ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่สืบสวนกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายนาย ไอ ยี่ ซอ พบรถยนต์ต้องสงสัยเดินทางมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง จึงประสานด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ จ.แพร่ ตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาบ้า 600,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ กระทั่งต่อมาในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2667 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคี เปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลมครั้งที่ 2 เพื่อดำเนินการต่อนาย ไอ ยี่ ซอ และบุคคลในเครือข่าย ซึ่งถูกออกหมายจับรวม 6 คน ปิดล้อมตรวจค้น 11 จุด 5 จังหวัด (จ.เชียงราย, จ.พิษณุโลก, กทม.,จ.นนทบุรี, จ.ชลบุรี) สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 คน ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้เพิ่มเติมอีก 1 คน ในพื้นที่ จ.นครปฐม
หลังจากถูกออกหมายจับ นาย ไอ ยี่ ซอ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังคงมีพฤติการณ์สั่งการบุคคลในเครือข่ายให้ดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่งวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ชุดปฏิบัติการพื้นที่ภาคเหนือ พบพฤติการณ์ต้องสงสัยของผู้ลำเลียงยาเสพติด ที่ใช้รถยนต์กระบะทำช่องลับลำเลียงยาเสพติด ข้ามจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมามาเปลี่ยนป้ายทะเบียนไทย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. จึงสั่งการให้ สำนักปราบปรามยาเสพติด บูรณาการความร่วมมือกับ ปปส.ภ.5, ศปก.ทบ., ศรภ., ศอ.ปส.ทอ., ชปพ.ศอ.ปส.ทร. (นสร.กร.) และ ขกท.ทบ. ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวจากพื้นที่ จ.เชียงราย กระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยผู้ขับขี่ได้มานั่งรออยู่บริเวณใกล้เคียง จากนั้นมีบุคคลมาขับรถคันดังกล่าวออกไป และนำเข้าไปจอดที่โกดังลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุม ผู้ต้องหารวม 5 คน คีตามีน 150 กก. ไอซ์ 5 กก. ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ จากนั้นขยายผลตรวจค้นรวม 5 จุด (จ.สมุทรปราการ 4 จุด, จ.พะเยา 1 จุด) ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิเช่น รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำ เงินในบัญชีธนาคารและเงินสด รวมมูลค่าประมาณ 3,350,000 บาท
ผู้ต้องหาให้การว่า ในคดีนี้มีผู้ว่าจ้างให้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง (จ.สมุทรปราการ ,จ.นนทบุรี) ตั้งแต่ห้วงกลาง ปี 2568 ระยะเวลารวม 3 เดือน เคยลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างลำเลียงยาเสพติดครั้งละ 400,000 บาท ยาเสพติดที่เคยลำเลียงได้แก่ คีตามีน ไอซ์ ครั้งละประมาณ 50 - 100 กก. และยาบ้าหลักแสนเม็ด
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ (เลขาธิการป.ป.ส.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดในทุกระดับการค้า ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้จับกุมกวาดล้างยาเสพติดตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมถึงกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาดและเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการ ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดให้ครบทั้งวงจร โดยภาพรวมสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่าย นาย ไอ ยี่ ซอ รวม 14 คน ผู้ต้องหาในคดีหลัก 10 คน, ออกหมายจับ 6 คน (จับตามหมายได้ 4 คน) ของกลางยาเสพติด คือ เฮโรอีน 91.7 กก. ยาบ้า 600,000 เม็ด คีตามีน 150 กก. และไอซ์ 5 กก. ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 114 ล้านบาท
©2018 CK News. All rights reserved.