วันที่ 31 ก.ค.2568 พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก.พร้อมด้วยนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำวัน ที่ 31 กรกฎาคม 2568
พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ เปิดเผยว่า เหตุการณ์สถานการณ์ตามแนวชายแดนโดยภาพรวมยังเป็นลักษณะตรึงกำลังอยู่ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชาแต่สภาพแวดล้อมโดยรวมยังอยู่ในความสงบ
สำหรับการควบคุมตัวทหารกัมพูชา 20 นาย เป็นสาเหตุมาจากการยอมจำนนของฝ่ายทหารกัมพูชา 20 นาย เนื่องจากกระสุนหมดในพื้นที่ช่องซำแต อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิดฐานเข้าเมืองโดยได้รับอนุญาตหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
ส่วนผู้ควบคุมตัวที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นายก็ได้ส่งตัวเข้ารักษาที่ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ และ อยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคงดูแล
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ได้เข้ามาติดตามถึงสถานการ์ที่เกิดขึ้น
โดยได้เข้าไปพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 รับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อวันที่ 29 และ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการพูดถึงสถานการณ์ก่อนที่จะนำไปสู่การประทะของทั้งสองประเทศ ซึ่งฝ่ายไทยได้อธิบายชี้แจงว่าฝ่ายไทยได้ใช้ความพยายามอดทนอดกลั้นประท้วงการละเมิดข้อตกลงต่างๆ
ส่วนฝ่ายกัมพูชาได้ใช้กำลังทหารและวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พี่พาท ละเมิดอนุสัญญาออตาวา และใช้ประชาชนเข้ามาเป็นโล่กำลัง สร้างความยั่วยุจนเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องและฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มปะทะที่ปราสาทตาเมือนทม ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน โดยไทยยินดีให้การสนับสนุนในการสังเกตการณ์ของทางมาเลเซียต่อไป และย้ำว่า ยังจุดมุ่งหมายของไทย เพื่อต้องการไปสู่สันติภาพตามข้อตกลในหยุดยิงทันที , ไม่เพิ่มกำลังทหารและช่วยเหลือทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บด้วย
ขณะที่ ประชาชนที่ได้ผลกระทบจากการปะทะ
ที่ผ่านมามีผู้บาดเจ็บสาหัส 12 คน 13 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 12 คน ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 คน รวมยอดทั้งหมด 52 คน
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากองทัพบกได้มีการจัดวงดนตรีหมวดดุริยางค์ ทำการแสดงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่จังหวัด สุรินทร์และบุรีรัมย์ เพื่อคลายความตึงเครียดและสร้างขวัญกำลังใจให้สูงพักพิงดังกล่าวตามนโยบายของกองทัพในการดูแลประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีการประทะในพื้นที่จังหวัดชายแดนกัมพูชา
ด้าน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหม ได้เชิญผู้ช่วยทูตทหาร ลงพื้นที่สังเกตการณ์ และประเมินผลกระทบจากการปะทะบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาในวันพรุ่งนี้ และเพื่อให้ข้อเท็จจริงได้รับทราบแก่สาธารณะชนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จึงนำคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศจำนวน 22 สำนัก รวม 38 คน ลงพื้นที่พร้อมกับผู้ช่วยทูตทหารในวันพรุ่งนี้ด้วย ยืนยันว่า ฝ่ายไทยจะไม่มีการสร้างภาพลวง หรือ กล่าวหากัมพูชา ลักพาตัวทหารไทย อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวหาไทย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง สิ่งที่สื่อมวลชนต่างประเทศจะได้เห็นคือความเสียหาย ในบ้านเรือนและโรงพยาบาล โรงเรียน รวมไปถึงสถานที่สาธารณะ ที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นโจมตี พื้นที่ที่ไม่ใช่ทหารละเมิด กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชน และละเมิดสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิตแล้วบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
©2018 CK News. All rights reserved.