วันที่ 3 ส.ค.2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับรายงานถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน
ทั้งนี้ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของไทย ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่าง เฝ้าระวังและป้องกันเหตุอย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากประชาชน ขอให้ติดตามสถานการณ์ ผ่านช่องทางของหน่วยงานราชการ และไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวเท็จ บิดเบือนด้วย
ด้าน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวหาทหารไทยว่ากระทำการโหดร้ายกับทหารกัมพูชา โดยเฉพาะการอ้างว่ามีการ “ตัดศีรษะ” และ “เหยียบย่ำศพ” โดยยืนยันว่าเป็น “ข่าวปลอม” ที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นความพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความตึงเครียดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารไทยเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม กฎหมายระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับของกองทัพอย่างเคร่งครัด ทหารกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลจากฝ่ายไทยอย่างเหมาะสม ก่อนส่งตัวกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ด้วยกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และให้เกียรติ
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เผยแพร่รายชื่อ 10 อันดับข่าวปลอมที่ถูกแชร์มากที่สุดในรอบสัปดาห์ ซึ่งล้วนเป็นข่าวบิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่:
1. ข่าวทหารไทยตัดศีรษะทหารกัมพูชา
2. ข่าวทหารไทยเสียชีวิต 140 นาย
3. ข่าวทหารไทยเสียชีวิต 40 นาย ถูกจับ 30 นาย
4. ข่าวนอรเวย์บริจาคเครื่องบิน F-16 ให้ไทย
5. ข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติสงคราม
6. ข่าวทหารไทยยึดคืนปราสาทพระวิหาร
7. ข่าวไทยใช้อาวุธชีวภาพโจมตีกัมพูชา
8. ข่าวเครื่องบินปล่อยสารพิษใส่พลเรือนกัมพูชา
9. ข่าวกองทัพภาค 2 ระดมทุนช่วยแนวหน้า
10. ข่าวปลัดกระทรวงกลาโหมสั่งงดช่วยผู้ป่วยกัมพูชา
ข่าวปลอมทั้งหมดนี้ ถูกตรวจสอบแล้วว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล โดยใช้ภาพเก่าหรือภาพจากต่างประเทศมาใส่คำบรรยายเท็จ เพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
”รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันหยุดวงจรข่าวปลอม อย่าแชร์ต่อหากไม่แน่ใจ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลทางการเท่านั้น หากพบข้อมูลน่าสงสัยหรืออาจเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1111 หรือ Line ID: @antifakenewscenter และเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com เพื่อร่วมกันปกป้องสังคมไทยจากความสับสนและความแตกแยก“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว
©2018 CK News. All rights reserved.