วันที่ 13 ส.ค.2568 งานมหกรรมวิทย์ ปี’ 68 อพวช. โชว์ความมั่นคงทางอาหารของมวลมนุษยชาติ กับนิทรรศการคลังเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต จำลองบรรยากาศเหมือนพื้นที่จริง ตั้งอยู่ขั้วโลกเหนือ ประเทศนอร์เวย์ ให้ผู้ร่วมงานสัมผัส และเรียนรู้เรื่องราว ชี้หากโลกเผชิญวิกฤต ความหวังมนุษยชาติเริ่มต้นที่นี่ แต่ละประเทศเบิกเมล็ดพันธุ์กลับไปประเทศเพื่อเพาะปลูกขยายพันธุ์ต่อไปได้
นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รักษาแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) กล่าวถึงงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568 ( NST Fair 2025) ภายใต้แนวคิด SCIENCE IN ACTION! FOR SUSTAINABLE COMMUNITIES จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-17 สิงหาคม 2568 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในส่วนของนิทรรศการหลัก ที่แสดงกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นิทรรศการคลังเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต (Mystery of Svalbard) ความน่าสนใจของนิทรรศการนี้ จะพาไปเรียนรู้เรื่องราวของเมล็ดพันธุ์ จำลองคลังเก็บเมล็ดพันธุ์จากทั่วโลกที่นำมาฝากไว้ที่ “สฟาลบาร์” ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นคลังภายใต้ภูเขาน้ำแข็งระดับความลึกกว่า 150 เมตร ทำหน้าที่เป็นผู้รับฝาก จัดเก็บ ดูแล ตรวจสอบเมล็ดพันธุ์แทนธนาคารเมล็ดพันธุ์จากทั่วโลก
“ในอนาคต หากโลกต้องเผชิญวิกฤต หรือภัยพิบัติต่างๆ แต่ละประเทศสามารถเบิกถอนไปใช้เพาะพันธุ์ต่อได้ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 100 ประเทศ ได้ส่งเมล็ดพันธุ์มาเก็บไว้ในคลังนี้ เปรียบเหมือนตู้เซฟกลางของโลกสำหรับเก็บรักษาพันธุกรรมพืช โดยมุ่งเน้นระบบและความปลอดภัยสูงสุด”
สำหรับนิทรรศการ คลังเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต Mystery of Svalbard ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้จำลองบรรยากาศ คลังเมล็ดพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Svalbard Global Seed Vault ตั้งอยู่เมืองลองเยียร์เบียน ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งอยู่ระหว่างแผ่นดินใหญ่และขั้วโลกเหนือคลังเมล็ดพันธุ์แห่งนี้อยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็งที่ระดับความลึกกว่า 150 เมตร มีความปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะมีอุณหภูมิหนาวเย็นตลอดทั้งปี สามารถแช่แข็งได้แม้ไม่มีไฟฟ้า และ ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล อากาศแห้งความชื้นต่ำ จึงปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงและภัยธรรมชาติ อีกทั้งยังไกลจากพื้นที่ความขัดแย้ง
ปัจจุบันมีมากว่า 100 ประเทศที่ส่งเมล็ดพันธุ์มาเก็บรักษาไว้ โดยมีทีม NordGen (Nordic Genetic Resource Center) เป็นผู้รับผิดชอบภารกิจ เปิดรับฝากเพียง 3 ครั้งต่อปี หรือเพิ่มเติมในกรณีพิเศษเท่านั้น
ปัจจุบัน คลังเมล็ดพันธุ์สฟาลบาร์ได้เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ในห้องนิภัยมากกว่า 1,300,000 ตัวอย่าง และมีเมล็ดพืชจากทุกมุมโลกมากกว่า 6,300 ชนิด จัดเก็บในถุงอลูมิเนียมชนิดพิเศษที่ปิดผนึกแน่นสนิทเพื่อป้องกันอากาศและความชื้นบรรจุลงในกล่องพร้อมหมายเลขระบุชื่อผู้ฝากและตำแหน่งชั้นวาง ภายในห้องอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถเก็บรักษาไว้ได้ถึง 100 ปี
ทั้งนี้ ข้อมูลเมล็ดพันธุ์พืชทั้งหมดจะถูกบันทึกในระบบฐานข้อมูลออนไลน์ที่ชื่อว่า Seed Portal โดยสิทธิความเป็นเจ้าของเมล็ดพันธุ์ยังคงเป็นของธนาคารเมล็ดพันธุ์เจ้าของเดิมแต่เพียงผู้เดียวและสามารถร้องขอคืนเมื่อจำเป็น โดยประเทศซีเรีย เป็นประเทศแรกที่เบิกถอนเมล็ดพันธุ์จากคลังครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ.2558 เนื่องจากเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อศูนย์วิจัย ICARDA ในเมืองอะเลปโป และเบิกถอนต่อเนื่องปี 2560 และ 2562 เพื่อนำไปเพาะปลูกและสร้างคลังเมล็ดพันธุ์ขึ้นใหม่ในประเทศโมรอกโกและเลบานอน
สำหรับประเทศไทย มี 4 หน่วยงานที่ส่งเมล็ดพันธุ์ไปเก็บรักษาที่คลังเมล็ดพันธุ์โลกสฟาลบาร์ ได้แก่ กรมการข้าว นำฝากเมล็ดพันธุ์ข้าวของไทย จำนวน 9 ครั้ง รวม 1,611 เชื้อพันธุ์ ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท นำฝากเมล็ดพันธุ์ทั้งหมด 3 ชนิด จำนวน 151 ตัวอย่าง ได้แก่ ถั่วเขียวผิวดำ ถั่วเขียว และถั่วพุ่ม มูลนิธิชัยพัฒนา นำฝากเมล็ดพันธุ์ทั้งหมด 22 ชนิด จาก 31 ตัวอย่าง 19 สกุล เช่น กระเจี๊ยบขาว มันฝรั่ง พริกไทย ข้าว พืชตระกูลกะเพรา แตงและมะเขือชนิดต่างๆ กรมวิชาการเกษตร ได้นำฝากเมล็ดพันธุ์ 15 ชนิด จำนวน 55 ตัวอย่าง 12 สกุล เช่น ถั่วลิสง ฝ้าย ผักบุ้ง ข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ งา และมันฝรั่ง
ทั้งนี้ นอกจาก อวพช.จะจัดนิทรรศการจำลองคลังเมล็ดพันธุ์โลกสฟาลบาร์ แบบ 360 องศา ผ่านแว่น VR แล้ว ภายในบริเวณเดียวกันยังมีกิจกรรมเมล็ดพันธุ์บำบัด Hot Seeds Therapy กิจกรรมปั้นดินเปลี่ยนโลก Creative Clay Time เรียนรู้คุณสมบัติของดิน ความชื้นและการแข็งตัว และยังมีบูธจัดแสดงจากเครือข่ายพันธมิตรเกษตรโลกร่วมด้วย ได้แก่ JIRCAS จาประเทศญี่ปุ่น CIRAD ประเทศฝรั่งเศส LIHER และ CRAES จากประเทศจีน ภายใต้แนวคิดเทคโนโลยีเกษตรเพื่อสิ่งแวดล้อม
ผู้ที่สนใจสามารถร่วมงาน “NST Fair 2025” จัดขึ้นที่ฮอลล์ 5-6 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถดูรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thailandnstfair.com และ Facebook: NSTFair Thailand และเข้าชมงาน “อว.แฟร์ 2025” จัดขึ้นที่ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เช่นเดียวกัน
©2018 CK News. All rights reserved.