วันที่ 30 ส.ค.68 ​พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.อลงกต คชแก้ว ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.อาทิตย์ พุ่มทอง, พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง รอง ผกก.5 บก.ปคม.พ.ต.ต.หญิง พรรษาวดี คล้อยระยับ สว.กก.5 บก.ปคม.นำกำลังจับกุมนายภูรี เลิศชัยประจิม อายุ 32 ปี ทหาร KNU พร้อมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 21  คน แบ่งเป็นชาย 16 คน หญิง 5 คน พร้อมของกลาง รถกระบะฟอร์ด แรนเจอร์ ทะเบียน บธ 8510 กาญจนบุรี และรถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก ทะเบียน กร 7455 ราชบุรี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จะเข้ามาในพื้นที่ ที่บริเวณบ้านเขาปู่คง หมู่ 10 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังเข้าสังเกตการณ์ ​ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัย 3 คัน จอดอยู่ริมถนนลูกรัง เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบ รถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน ทะเบียน 3ฒฎ 9383 กรุงเทพฯ ได้เร่งเครื่องหลบหนีไป ส่วนรถกระบะฟอร์ด แรนเจอร์ ทะเบียน บธ 8510 กาญจนบุรี คนขับได้ลงจากรถและวิ่งหนีเข้าป่าไป ขณะที่รถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก ทะเบียน กร 7455 ราชบุรี เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายภูรี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนขับ พร้อมกับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ 10 คน ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในรถและท้ายกระบะ ​จากการตรวจสอบรถกระบะฟอร์ดที่คนขับหลบหนีไป พบแรงงานชาวเมียนมาร์อีก 11 คน รวมแรงงานทั้งหมด 21 คน

สอบสวน นายภูรีฯ ให้การว่า ตนเองเป็นทหาร KNU ได้รับงานจากเพื่อนทางเฟซบุ๊กให้ไปรับแรงงานที่บ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อนำไปส่งที่บ้านเขาปู่คง โดยได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท เมื่อสอบถามแรงงานผ่านล่าม ทราบว่าแรงงานแต่ละคนจ่ายเงิน 20,000 บาท เพื่อเดินทางไปทำงานที่โรงงานใน จ.สมุทรสาคร โดยพวกเขาลักลอบเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้งผ่านเมืองทวายและเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ จนกระทั่งมาถูกจับกุม

เบื้องต้น​เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อ นายภูรีฯ “ให้คนต่างด้าวซึ่งตนรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และแรงงานต่างด้าวทั้ง 21 คน ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับทหาร KNU คือกองกำลังติดอาวุธของ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union - KNU)