วันที่ 7 ส.ค.2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา (ตามหมายจับ)
1. นายธาวิญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้
ที่ จ 684/2567 ลงวันที่ 31 ก.ค.67
ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พฤติการณ์ ด้วยเมื่อปี 2558 ผู้เสียหายกับพวก ได้ถูกกลุ่มผู้ต้องหาชักชวนร่วมลงทุนกับบริษัท สยามเอเจล จำกัด ในธุรกิจขายตรงเกี่ยวกับน้ำสมุนไพรสกัดเพื่อสุขภาพ “ยาน้ำกำลังเสือโคร่ง” อ้างว่าเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรบำรุงกำลัง ทั้งในรูปแบบชักชวนโดยตรงจากผู้ต้องหา, ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และปากต่อปาก เมื่อมีผู้สนใจลงทุนก็จะให้เข้าร่วมกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์พร้อมนำเสนอแผนการลงทุนต่างๆ การันตีให้ผลตอบแทนทุก 15-30 วัน ให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 20-40 ต่อเดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 240-480 ต่อปี มีโปรโมชั่นจูงใจให้ลงทุน หากลงทุนครบตามเงื่อนไขที่กำหนด จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ ทองคำแท่ง เป็นต้น โดยมีการสร้างเว็บไซต์ www.siamagel.com ให้นักลงทุนสามารถเข้าไปตรวจดูเอกสารและรายละเอียดการลงทุนของตน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงแรกมีการจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเพื่อจูงใจให้ลงทุนมากขึ้น
จนต่อมาเริ่มไม่มีการจ่ายผลตอบแทน เมื่อผู้เสียหายทวงถามก็พยายามบ่ายเบี่ยง จนสุดท้ายได้ปิดบริษัทหลบหนีไป กลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 18 รายเกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท จึงได้รวมตัวกันเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.
เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด จนต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหากับพวกซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการในคดีนี้ไปแล้ว 2 ราย เหลือเพียงนายธาวิญญ์ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกรรมการบริษัทและเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้รับเงินลงทุนจากผู้เสียหาย ได้หลบหนีการจับกุมเรื่อยมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปแฝงตัวเป็นเซลล์ขายรถแทรกเตอร์ยี่ห้อหนึ่ง ในจังหวัดนครพนม จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับรายนี้ได้ที่บริเวณถนนสายนาแก - สกลนคร ต.นาแก อ.นาแก จังหวัดนครพนม นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.