วันที่ 12 ก.ย.2568 พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าจับกุม นายสุวัฒน์ฯ อายุ 60 ปี จับกุมได้ที่บริเวณหน้าพักย่านถนนร่มเกล้า แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร และ นายสายชลฯ อายุ 53 ปี จับกุมได้ที่หน้าบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่4 ตำบลคลองสาม อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรือโดยอุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทํานองเดียวกัน, หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการสียภาษีอากร หรือขอคืน ภาษีอากรตามลักษณะนี้, ร่วมเป็นผู้ประกอบการโดยเจตนา หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ออกใบกํากับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ หรือใบแทนเอกสารดังกล่าว”
พฤติการณ์ เนื่องด้วยเจ้าพนักงานประเมิน กองตรวจสอบภาษีกลาง ได้ทําการตรวจสอบภาษีอากร รายบริษัท มีดี้ไทย ไอที จำกัด ตรวจพบว่า บริษัทฯ ดังกล่าว ประกอบกิจการขายสินค้าประเภท อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ โดยมี นายสุวัฒน์ฯ และนายสายชลฯ เป็นกรรมการ จากการตรวจสอบพบมีข้อมูลการทําธุรกรรมทางการเงิน ผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของบริษัทเป็นจํานวนมาก โดยในปี 2559 และ ปี 2560 พบว่า บริษัท มีการแสดงเงินได้พึงประเมินตามแบบ ภ.ง.ด.50 ตํ่ากว่าข้อมูลทางการเงินที่ได้รับ พบข้อมูลมีรายได้รอบระยะเวลาบัญชี ตั้งแต่ 1 ส.ค.2559 - 31 ส.ค. 2559 และรอบ 1 ม.ค.2560 - 31 ธ.ค.2560 ไม่สอดคล้องกับรายได้ ตามแบบ ภ.ง.ด.50
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าผู้ต้องหาไม่นํายอดขายจากรายการเงินฝากเข้าบัญชีธนาคาร ไปลงในรายงานภาษีขาย และไม่มีการออกใบกํากับภาษีขาย ซึ่งเจ้าพนักงานประเมินกองตรวจสอบภาษีกลาง พบว่า บริษัทฯ มีภาษีอากรค้างชําระ ทั้งสิ้น 79,067,875.84 บาท ( รวมเงินเพิ่มตามกฎหมาย คํานวนถึง 30 เม.ย. 2568 ) บริษัทไม่สามารถนําส่งเอกสารหลักฐานให้ตรวจสอบ และเมื่อเจ้าพนักงานทำหนังสือแจ้งให้กรรมการมาพบก็ไม่เข้ามาพบและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง เจ้าพนักงานสรรพากรพิจารณา เห็นว่า บริษัท มีเจตนา หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยง การเสียภาษีอากร ตามมาตรา 37( 2) แห่งประมวลรัษฎากร และเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเพื่อดำเนินคดีอาญากับ บริษัท มีดี้ไทย ไอทีจํากัด กับพวก ซึ่ง มีนายสุวัฒน์ฯ และสายชลฯ เป็นกรรมการลงลายมือชื่อ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาลอาญา ขอออกหมายจับผู้ต้องหาผู้เป็นกรรมการในฐานะนิติบุคคล และ ในฐานะส่วนตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา ชุดสืบสวน ชุดปฏิบัติการที่ 3 และ ชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ปอศ ได้ติดตามและสามารถจับกุมตัว นายสุวัฒน์ฯ และนาย สายชลฯ ตามหมายจับดังกล่าวได้ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.