วันที่ 19 ต.ค.2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช
รอง ผกก.2 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกก.2 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายทวนฯ หรือเก่ง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีฐานความผิด “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”

สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทราบว่า นายทวนฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ลงวันที่ 2 กันยายน 2568 ที่ 758/2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”

ต่อมาได้สืบสวนหาข้อมูลและสืบสวนซุ่มดูตามยุทธวิธี พบบุคคลเป็นชายไทยมีตำหนิรูปพรรณ
คล้ายบุคคลตามหมายจับข้างต้น จึงได้ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ โดยแสดงความบริสุทธิ์ใจ และได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวแล้วพบว่า คือ นายทวนฯ หรือเก่ง จึงแสดงหมายจับดังกล่าวให้ นายทวนฯ หรือเก่ง ตรวจสอบ อ่านแล้ว นายทวนฯ ยืนยันด้วยความสมัครใจว่าตนเป็นบุคคล
ตามหมายจับดังกล่าวจริงและยังไม่เคยถูกจับตามหมายนี้มาก่อน จึงแจ้งให้ นายทวนฯ ทราบว่าต้องถูกจับโดยแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบและอธิบายให้ฟังตามหน้าหมายจับ นายทวนฯ ทราบและเข้าใจดีแล้ว
ได้ยินยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมทำการควบคุมตัวนำส่งศาลจังหวัดธัญบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายเก่งฯ เป็นชายวัยกลางคน มีรอยสักมังกรพาดจากไหล่ถึงสะดือขนาดใหญ่เต็มลำตัว เป็นเอกลักษณ์จนถูกขนานนามในวงการค้ายาว่า “เก่งมังกรดำ” ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง เมื่อปี 2557 และปี 2561

อย่างไรก็ตาม หลังพ้นโทษได้ไม่นาน เจ้าตัวกลับเข้าไปพัวพันในคดีลักทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะก่อเหตุและหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสืบทราบแหล่งกบดาน ก่อนเข้าปฏิบัติการปิดล้อมและจับกุมตัวได้ในที่สุด ภายหลัง นายเก่งฯ ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล แต่กลับมีพฤติการณ์หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงออกหมายจับติดตามตัว​
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ​