ผบช.ภ.1 ระดมกวาดล้างจับกุมแก๊งพนันออนไลน์-สแกมเมอร์


14 พ.ย. 2568, 06:43

ผบช.ภ.1 ระดมกวาดล้างจับกุมแก๊งพนันออนไลน์-สแกมเมอร์




วันที่ 14 พ.ย.2568 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบช.ภ.1/โฆษก ตร.ภ.1 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1/รองโฆษก ตร.ภ.1 พล.ต.ต.ฤทธินันท์ ปุ๋ยพันธวงศ์ ผบก.กค.ภ.1/รองโฆษก ตร.ภ.1 เปิดเผยว่าทาง พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบช.สง.ก.ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.1 ,พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน รอง ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1 นำการปฏิบัติการโดย พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1 ได้ทำการสืบสวนขยายผลแสวงหาพยานหลักฐานจนทราบว่า เว็บไซต์ SBOBET.LIVE หรือ เว็บไชต์ https://sbobetlive-th.com ได้ชักชวนหรือจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันผ่านได้ทางเว็บไซต์ เว็บไซต์ SBOBET.LIVE หรือเว็บไซต์ https://sbobetlive-th.com แaะเว็บไซต์ UFACLUB1 โดยปรากฎช่องทางเข้าเว็บไซต์ หรือ url คือ https://ufaclub1.com/ ซึ่งเว็บไซต์ทั้งสองมีความเชื่อมโยงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นจนนำไปสู่การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาชาย 8 คน หญิง 2 คน รวมจำนวน 10 คน

โดยมีฐานความผิด " ร่วมกันกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันการ แชร์ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันใน การเล่นอันชัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต และร่วมกันกันฟอกเงิน" พร้อมด้วยของกลาง 1.เงินสด จำนวน 30,324,600 บาท , 2.บัตรเอทีเอ็ม (บัญชีม้า) ประมาณ 100 ใบ , 3.โทรศัพท์มือถือ 22 เครื่อง , 4 เอกสารการโอนเงินใบเสร็จค่าน้ำไฟหลายรายการระหว่างตรวจนับและทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินยอดรวม 20 ล้านบาท นำตัวผู้ผู้ต้องหาทั้ง 10 คน พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ทั้งนี้ในห้วงที่ผ่านมา ตำรวจภูธรภาค 1 สามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับสแกมเมอร์ ได้จำนวน 7 คอกม้า ตรวจยึดเงินสดของกลาง จำนวน 5,580,300 บาท  และคืนเงินผู้เสียหายไป จำนวน 8 ราย เป็นเงินจำนวน 1,200,000 บาท  ได้ดังนี้
1.จับกุมคอกม้า
1.1 พื้นที่ สภ.พระประแดง จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ยึดของกลางเงินสดจำนวน 1,924,400 บาท คืนเงินผู้เสียหายได้ 2 ราย รวมจำนวน 524,400 บาท ( ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายเพื่อรับเงินคืน )
1.2 พื้นที่ สภ.บางศรีเมือง จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ยึดของกลางเงินสด จำนวน 846,800 บาท คืนเงินผู้เสียหายที่แจ้งความได้ ดังนี้ พื้นที่ สภ.พนมทวน จำนวน 115,000 บาท พื้นที่ สภ.หัวหิน จำนวน 29,700 บาท, พื้นที่ สน.นิมิตใหม่ จำนวน 12,000 บาท, พื้นที่ สภ.วาปีปทุม จำนวน 45,000 บาท
1.3 พื้นที่ สน.บางชัน ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน 
ยึดของกลางเงินสดจำนวน 687,000 บาท (อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามผู้เสียหายเพื่อรับเงินคืน)
1.4 พื้นที่ สภ.บางปู จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน ยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีที่ใช้ในการทำธุรกรรม จำนวน 4 ชุด (อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามผู้เสียหายเพื่อรับเงินคืน)
1.5 พื้นที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน ยึดของกลางเงินสด จำนวน927,000 บาท คืนเงินผู้เสียหายที่แจ้งความได้ ดังนี้ พื้นที่ สภ.วังเหนือ จำนวน 169,000 บาท, พื้นที่ สภ.บางแก้ว จำนวน 129,696บาท
1.6 พื้นที่ สภ.บางใหญ่ จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน ยึดของกลางเงินสด จำนวน 428,000 บาท และประสานข้อมูล WAR ROOM PCT อายัดเงินไว้อีกจำนวน 500,000 บาทเศษ คืนเงินผู้เสียหายที่แจ้งความได้ ดังนี้ พื้นที่ ภ.3 และ ภ.6
1.7 พื้นที่ สน.บางชัน ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ยึดของกลางเงินสดจำนวน 166,000 บาท และประสานข้อมูล WAR ROOM PCT อายัดเงินไว้อีกจำนวน 101,100 บาท คืนเงินผู้เสียหายที่แจ้งความได้ ดังนี้ พื้นที่ สภ.เจาะไอร้อง จำนวน 166,000 บาท

 

ซึ่งทั้ง 5 คดีดังกล่าวได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาโดยมีฐานความผิดแตกต่างกันตามพฤติกรรมความผิด ดังนี้
1.) ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและ มีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเป็นซ่องโจร
2.) ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด
3.) เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด 
4.) ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน
หลังจากนี้ตำรวจภูธรภาค 1 จะได้ทำการสืบสวนจับกุมและขยายผลผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการสแกมเมอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด


 





คำที่เกี่ยวข้อง : #ตำรวจภูธรภาค 1  









©2018 CK News. All rights reserved.