กอ.รมน. ขอ ปชช. เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย ลอบสอดแนม-เป็นไส้ศึก 


21 พ.ย. 2568, 07:33

กอ.รมน. ขอ ปชช. เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย ลอบสอดแนม-เป็นไส้ศึก 




วันที่ 21 พ.ย.2568 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แจ้งว่า ในช่วงนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ 7 จังหวัด ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา ซึ่งพบว่า มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลบางส่วนที่อาจเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ชัดเจน

แม้ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันที่แน่ชัดถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้น แต่เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ประชาชน และความมั่นคงของชาติ กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดน ให้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ และแจ้งข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

กอ.รมน. ขอเน้นย้ำว่า การสังเกตพฤติกรรมที่ต้องสงสัยหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ไม่ได้เป็นการเหมารวมบุคคลใดตามสัญชาติ แต่เป็นเพียงการเฝ้าระวังเชิงป้องกันในช่วงที่สถานการณ์มีความอ่อนไหว ดังนั้น หากประชาชน พบเห็น 1.บุคคลต่างชาติที่มีพฤติกรรมลับล่อหรือหลีกเลี่ยงการแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ 2.การถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลในพื้นที่หวงห้าม 3.การเข้าพื้นที่ต้องห้ามโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน 4.การติดต่อสื่อสารหรือเคลื่อนไหวผิดปกติใกล้พื้นที่ราชการหรือพื้นที่ความมั่นคง

ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครอง เพื่อทำการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยของส่วนรวมเท่านั้น

สำหรับช่องทางแจ้งข้อมูล ประชาชนสามารถติดต่อได้ผ่าน
-สายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599
-สายด่วนความมั่นคงกอ.รมน. 1374
-สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567
-หน่วยทหาร–ฝ่ายปกครองในพื้นที่
-เจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย
กอ.รมน. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการเฝ้าระวังและสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของประเทศ พร้อมขอยืนยันว่าหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ยังคงปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง เคารพสิทธิมนุษยชน และตระหนักถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นลำดับแรก





คำที่เกี่ยวข้อง : #กอ.รมน.  









©2018 CK News. All rights reserved.