ทัพเรือ ใช้ปฏิบัติการทางทหารขับไล่ทหารกัมพูชา ที่บ้านหนองรี จ.ตราด


9 ธ.ค. 2568, 10:15

ทัพเรือ ใช้ปฏิบัติการทางทหารขับไล่ทหารกัมพูชา ที่บ้านหนองรี จ.ตราด




วันที่ 9 ธ.ค.2568 พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า สถานการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ด้าน จ.ตราด บริเวณบ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง ซึ่งปรากฏชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศล่าสุด ว่ามีกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยอีก ภายหลังที่บ้าน 3 หลัง ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรและฐานที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชาได้ถูกรื้อทำลาย รวมทั้งทหารกัมพูชาได้ถอนกำลังไปแล้ว

นอกจากนี้ กองกำลังทหารกัมพูชาได้ย้อนกลับมารุกล้ำอธิปไตยอีก รวมทั้งมีการเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่ ฝ่ายไทยจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก ทั้งการประสานแจ้งเตือน และการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาในทุกระดับ เพื่อให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ของฝ่ายไทยโดยเร็ว

ทั้งนี้ แม้ฝ่ายไทยจะใช้ความอดกลั้นและดำเนินการเจรจามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากกำลังทหารกัมพูชาจะไม่ถอนกำลังออกจากดินแดนของไทยแล้ว ยังมีการเสริมกำลังเพิ่มเติม เช่น ชุดรบพิเศษ พลซุ่มยิง จรวดหลายลำกล้อง รวมถึงปรับปรุงฐานที่มั่นสิ่งอำนวยความสะดวกทางยุทธวิธีในลักษณะที่กระทบต่ออธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน เช่น การขุดคูเลต การติดตั้งอาวุธหนัก และการใช้อากาศยานไร้คนขับเข้ามาลาดตระเวนในพื้นที่และที่ตั้งทางทหารของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง

ทางกองทัพเรือพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นท่าทีที่แสดงถึงการคุกคามต่ออธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นเพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ กองทัพเรือและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อขับไล่กำลังทหารกัมพูชาออกจากดินแดนอธิปไตยของไทย ตามหลักการป้องกันตนเองสากล (Right of Self-Defence) และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยยังคงยึดมั่นในหลักการใช้กำลังตามความจำเป็นและได้สัดส่วน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจจะลุกลาม

กองทัพเรือ ขอยืนยันว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของศูนย์บัญชาการทางทหารและ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญ พร้อมทั้งยืนยันว่าไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตยหรือการกระทำใด ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างเด็ดขาด





คำที่เกี่ยวข้อง : #กองทัพเรือ  









©2018 CK News. All rights reserved.