สตม.รวบ 17 มังกรแก๊งสแกมเมอร์ คารีสอร์ทในเมืองหลวง


11 ธ.ค. 2568, 15:40

สตม.รวบ 17 มังกรแก๊งสแกมเมอร์ คารีสอร์ทในเมืองหลวง




วันที่ 11 ธ.ค.2568 ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.สำราญ นวลมา
รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปชก.ตร., พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปชก.ตร., พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ
ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปชก.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปชก.ตร. ได้สั่งการให้ สตม.
สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการ
ตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิด
กฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหาย
ต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการ
กระทำความผิด

ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล
รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.ดุสิต ภูหงษ์เพชร รอง ผกก.1 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุม
ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ดังนี้

1. สืบ ตม. รวบหนุ่มเมืองลอดช่องสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หนีหมายแดง
กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายลีเจี้ยน (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สัญชาติสิงคโปร์ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าว
เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.
ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ย่านถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามว่า พบเห็นชายชาวต่างชาติลักษณะ
มีพิรุธในย่านถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวคือ นายลีเจี้ยน
(นามสมมติ) อายุ 32 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ไม่มีหนังสือเดินทางแสดง และไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
จากการตรวจสอบข้อมูลกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย พบว่า นายลีเจี้ยน
เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการสิงคโปร์และองค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL RED
NOTICE) ในความผิดฐาน กระทำการเพื่ออำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดร้ายแรงในสิงคโปร์ ได้แก่
การฉ้อโกง โดยในปฏิบัติการข้ามพรมแดนของกองกำลังตำรวจสิงคโปร์และตำรวจแห่งชาติกัมพูชาได้เข้าสกัดกั้น
กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ดำเนินการหลอกลวงแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาล ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2567 เป็นต้นมา ได้จับกุม
ผู้ต้องสงสัยในสิงคโปร์ จำนวน 15 คน โดยเหยื่อจะถูกหลอกลวงผ่านกระบวนการ 3 ขั้นตอน ได้แก่ การปลอมแปลง
เป็นพนักงานธนาคาร จากนั้นจึงปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาล ก่อนที่จะโน้มน้าวเหยื่อว่าบัญชีของพวกเขาอยู่ระหว่าง
การสอบสวน และหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมโดยกลุ่มอาชญากร กลุ่มอาชญากรนี้ปฏิบัติการจาก
กรุงพนมเปญ โดยมุ่งเป้าไปที่เหยื่อในสิงคโปร์ เชื่อกันว่ากลุ่มนี้มีส่วนรับผิดชอบต่อคดีอย่างน้อย 330 คดี มูลค่า
ความเสียหายเกินกว่า 40 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (กว่า 982 ล้านบาท) โดยสมาชิกได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการหลอกลวง
ที่ประสบความสำเร็จ ในวันที่ 9 – 11 ก.ย.2568 การบุกค้นร่วมกันในสิงคโปร์และกัมพูชานำไปสู่การจับกุมและยึด
เงินทุนกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (กว่า 61.4 ล้านบาท)


2. บุกรวบ 17 มังกรแก๊งสแกมเมอร์ คารีสอร์ทในเมืองหลวง
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกับ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา และ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) จับกุม
นายณรงค์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สัญชาติไทย ดำเนินคดีในข้อหา รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่า
ฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” พร้อมชาย

ชาวจีน 5 คน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และได้ตรวจยึด
โน๊ตบุ๊ค 5 เครื่อง โทรศัพท์ 27 เครื่อง ไว้เพื่อทำการตรวจสอบ นั้น
กก.1 บก.สส.สตม. ได้ทำการสืบสวนขยายผลทราบว่ายังมีกลุ่มชายชาวจีนเข้าพักที่รีสอร์ทภายใน
ซอยร่มเกล้า 19/5 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ จึงได้ไปตรวจสอบ พบนายซินเฉียง (นามสมมติ)
อายุ 26 ปี สัญชาติจีน กับพวกรวม 17 คน ซึ่งทั้ง 17 คน ไม่มีหนังสือเดินทางพกติดตัว จากการตรวจสอบข้อมูล
การเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย พบผู้ที่ไม่มีข้อมูลการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 12 คน จึงแจ้งข้อหา
“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และพบผู้ที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต หรือ
OVERSTAY จำนวน 5 คน แจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่ง พนักงาน
สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามทั้ง 17 คน ยังไม่ยอมให้การใด ๆ แต่จากแนวทางการสืบสวนพบข้อมูลว่าทั้ง 17 คน
เป็นแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งได้หลบหนีจากการที่กองทัพทหารเมียนมา และกองกำลังกะเหรี่ยง BGF หรือกองกำลังทหาร
พิทักษ์ชายแดน ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเมืองสแกมเมอร์ และมีการกดระเบิดทำลายอาคารในเขตเศรษฐกิจ
พิเศษชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับชายแดน อ.แม่สอด จว.ตาก ซึ่ง กก.1 บก.สส.สตม.
จะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกลุ่ม แก๊ง และผู้ให้ความช่วยเหลือในการเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทยโดยผิด
กฎหมายต่อไป

3. สืบ ตม. จับกุมชาวต่างชาติผิวสีจำหน่ายยาอีและโคเคน
กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายชิบูเก้ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 สัญชาติไนจีเรียน พร้อมของกลาง ยาเสพติด
ให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 40 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) น้ำหนักรวม 15.57 กรัม โดยกล่าวหาว่า
จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) และประเภท 2 (โคเคน) โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่ง พงส.สน .บางซื่อ
ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม คอนโดมิเนียม ซอยอินทามระ 24 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีลักลอบขายยาเสพติดให้กับ
กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านซอยอินทามระ 25 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ จึงทำการสืบสวนติดตาม
ดูพฤติการณ์จนชัดเจน จึงได้วางแผนจับกุม โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อยาอี จำนวน 40 เม็ด โคเคน จำนวน 10 กรัม
ตกลงราคาซื้อขายกันที่ ยาอี เม็ดละ 1,800 บาท โคเคน กรัมละ 3,000 บาท และนัดหมายส่งมอบกันที่คอนโดมิเนียม
ในซอยอินทามระ 24 ก่อนถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าไปแฝงกายปะปนกับลูกบ้านของคอนโด
มิเนียน เพื่อเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของสายลับและนายชิบูเก้ จนกระทั่งนายชิบูเก้ได้มาพบกับสายลับตามนัดหมาย
และได้พากันไปเข้าห้องน้ำเพื่อส่งมอบยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายกัน สายลับจึงได้ส่งสัญญานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ชุดจับกุมเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบเงินสดจำนวน 102,00 บาท ซึ่งเป็นเงินล่อซื้ออยู่ในกระเป๋าสะพาย
สีดำของนายชิบูเก้ จากการตรวจสอบของกลางซึ่งสายลับนำมามอบให้ด้วยชุดทดสอบสารเสพติดเบื้องต้น ผลการ
ตรวจสอบเป็นยาอี และโคเคน สอบถามนายชิบูเก้ให้การยอมรับว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยรับมา
จากชาวต่างชาติผิวสีไม่ทราบชื่ออีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว และจะได้
สืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด
ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้ าเมือง
อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6
ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th





คำที่เกี่ยวข้อง : #สตม.  









©2018 CK News. All rights reserved.