วันที่ 27 ธ.ค.2568 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬากรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการรับสมัคร สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ว่า ได้รับรายงานว่าการรับสมัครรับเลือกตั้ง สส. ทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและ กทม. ยังมีความเรียบร้อยดี

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยบอกว่า มีความผิดปกติเริ่มมีการรวบรวมบัตรประชาชน เพื่อไป จ่ายเงินนั้น นายณรงค์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งหากมีความปรากฏ กกต. จะมีการตรวจสอบ โดยได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่เรื่องการให้ความรู้ผู้สมัคร กับพรรคการเมืองให้หาเสียงในกติกา เน้นย้ำเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง

สำหรับข้อกังวลในการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ชายแดนที่มีการปะทะกันนั้น ยืนยันว่า จะสามารถ จัดการเลือกตั้ง เราเดินหน้ามา ไกลแล้ว มีการเตรียมความพร้อม ตลอดเวลา ซึ่งต้องจัดการเลือก ตั้งพร้อมกันทั่วประเทศตามกฎหมาย ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีการรับสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ที่เกิดความไม่สงบ โดยจัดพื้นที่รับสมัครให้ห่างไกลจากพื้นที่ปะทะ

เมื่อถามว่า ประชาชนยังมีความกังวลว่าหากเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แล้วอาจเกิดความไม่ปลอดภัย ประธาน กกต. กล่าวว่า เราได้ออกแนวปฏิบัติและระเบียบที่รองรับสถานการณ์ เมื่อถึงวันนั้นจริงๆ เราก็มีวิธีการเลือกตั้งให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมและสุจริต ซึ่งได้เตรียมไว้แล้ว เรามาถึงขั้นนี้ก็ต้องเดินหน้า

เมื่อถามว่า สังคมมีความกังวลเรื่องการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและออกเสียงประชามติในวันเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสน ทาง กกต. ได้มีการรณรงค์อย่างไรบ้าง นายณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่า ไม่มีการทำ ประชามติล่วงหน้า เพราะตามกฎหมายไม่สามารถลงประชามติล่วงหน้าได้ ทั้งๆ ที่ กกต. อยากทำเนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เราทำได้เพียงแต่ต้องช่วยกันรณรงค์ว่าให้ไปออกเสียงลงประชามติ ซึ่งจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนออกเสียงประชามตินอกเขต วันที่ 3-5 มกราคม 2569 จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาจำกัดมาก จึงฝากสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ในการลงทะเบียนเพื่อออกเสียงประชามติ

ส่วนวันออกเสียงประชามติอย่างเป็นทางการนั้น ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีประกาศ ซึ่งตามกฎหมายต้องประกาศวันที่ 2 มกราคม 2569 โดยเราได้ซักซ้อมเตรียมการไว้แล้ว ทั้งการทำประชามติและการเลือกตั้ง สส. ซึ่งนอกจาก กกต. ก็ยังมีหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วย แม้จะมีเวลาจำกัดแต่เราจะนำข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นมาแก้ไข

ทั้งนี้ พรรคการเมืองสามารถรณรงค์เรื่องการทำประชามติได้ ไม่ผิดกฎหมาย ถือเป็นสิ่งที่ต้อง ช่วยกัน ซึ่งพรรคการเมืองรณรงค์ ได้เฉพาะขั้นตอนการทำ ประชามติ แต่ไม่สามารถชี้นำได้ว่าจะออกเสียงประชามติไปในทิศทางใด

ส่วนการรับสมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม นี้ ซึ่งจะมีบุคคลระดับหัวหน้าพรรคการเมืองเดินทางมานั้น ทาง กกต. ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

"อยากให้ประชาชนออกมาใช้ สิทธิ์เลือกตั้งให้มากขึ้น อยากให้ มีสถิติมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ ผ่านมา ซึ่งมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์จำนวน 75% เพราะถ้าท่านออกมาใช้สิทธิ์มากเท่าไหร่ ก็จะเป็นตัวชี้วัดว่าท่านได้สนใจทางด้านการเมือง เชื่อว่าจะได้ สส. ที่ดีมีคุณภาพมีความซื่อสัตย์สุจริต  ซึ่ง สส. เหล่านี้จะเข้าไปเป็นผู้บริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ประเทศก็จะเดิน หน้าได้ และเน้นย้ำเรื่องการซื้อ สิทธิ์ขายเสียงเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น พรรคการเมืองทุกพรรคควรสู้กันด้วยนโยบาย การหาเสียง ว่านโยบายสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้อย่างไร" นายณรงค์ กล่าว