สำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยว่า H&M เชนค้าปลีกแฟชั่นอันดับ 2 ของโลก กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาปลดพนักงานชั่วคราวนับหมื่นคนทั่วโลก หลังจากธุรกิจต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

เมื่อสัปดาห์ก่อน แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นสัญชาติสวีเดนได้ตัดสินใจปิดร้านทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ และเยอรมนี ซึ่งเป็นตลาดอันดับที่ 2 ตลอดจนปิดร้านในสหราชอาณาจักร รวมๆ แล้ว H&M ปิดร้านไปทั้งสิ้น 3,441 สาขา จากทั้งหมด 5,062 สาขาที่กระจายอยู่ทุกมุมโลก

แม้จะยังมีขายออนไลน์ในตลาด 50 แห่งจากทั้งหมด 74 แห่ง แต่ H&M ก็ยอมรับว่าเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับยอดขายที่ตกต่ำ H&M จำต้องทบทวนแผนธุรกิจและหาวิธีลดต้นทุนเพื่อประคองธุรกิจให้ผ่านช่วงเวลาวิกฤตไปให้ได้

ยักษ์ฟาสต์แฟชั่นระบุในแถลงการณ์ว่ากำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา ‘ปลดพนักงานชั่วคราว’ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีจำนวนเท่าไร แต่คาดว่าจะกระทบกับพนักงานหลายหมื่นคนทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มการใช้มาตรการนี้แล้วในบางพื้นที่ ขณะเดียวกัน H&M ยอมรับว่าข่าวร้ายที่สุดคืออาจมีพนักงานบางคนตกงานอย่างถาวรด้วย

นอกจากนั้น  H&M ยังวางมาตรมาตรการอื่นๆอีก ทั้งการจัดซื้อการลงทุน และการเช่า รวมไปถึงเสนอให้ยกเลิกการจ่ายปันผลด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับผลกระทบทางการเงินในไตรมาสปัจจุบัน H&M จะรายงานในวันที่ 3 เมษายนนี้