จากกรณีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) มีความเห็นส่งสำนวนให้อัยการ จ.ราชบุรี พิจารณาสั่งฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ คดีครอบครองที่ดิน ฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711 ไร่ ใน 4 ข้อหา ตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ นอกจากนี้ น.ส. ปารีณา ยังจะถูกดำเนินคดีในฐานะบุคคลและนิติบุคคลผู้มีอำนาจเต็ม ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ม.ค.64 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน บก.ปทส.ได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว

แต่ทางน.ส.ปารีณา ได้ใช้เอกสิทธิ์ความเป็นส.ส.ขอเลื่อนเข้าพบอัยการ และยังได้ขอความเป็นธรรมให้พนักงานสอบสวนปทส.สอบพยานฝ่ายผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 9 ปากด้วย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ให้ความเป็นธรรม และมีการสอบสวนความเพิ่มตามที่น.ส.ปารีณา ร้องขอ

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนยังคงยืนยันความเห็นเดิมให้สั่งฟ้องใน 4 ข้อหา ขณะนี้จึงเหลือเพียงขั้นตอนการนำตัว น.ส.ปารีณาไปส่งให้อัยการ แต่เนื่องจากน.ส.ปารีณา อ้างเอกสิทธิ์การเป็นส.ส.ขอเลื่อนการไปพบพนักงานอัยการ โดยอ้างการรอปิดสมัยประชุมสภา

ทางปทส.ได้ทำหนังสือผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นผ่านกองบัญชาการสอบสวนกลาง ขึ้นไปทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาในการทำหนังสือเรียกตัว น.ส.ปารีณา มาพบพนักงานอัยการจ.ราชบุรี ด้วย

ทั้งนี้สำหรับการขอเรียกตัว น.ส.ปารีณา ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี จำเป็นจะต้องทำหนังสือขึ้นไปให้ทางสำนักานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ทาง ผู้บัญชาการตำรวแห่งชาติ หรือ รองผู้บัญชาการตำรวแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาลงนามในหนังสือขออนุญาตเรียกตัว ส.ส. ต่อประธานสภาตามขั้นตอนต่อไป