ศบค. เคาะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 31 มี.ค.


22 ก.พ. 2564, 18:49

ศบค. เคาะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 31 มี.ค.





เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่า มีการประชุมหลายวาระ ทั้งเพื่อทราบและเพื่อพิจารณา รวมทั้งให้ความเห็นชอบ การปรับสีในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมาตรการการผ่อนคลายจะลดระดับลงไปอยู่ในขั้นปลอดภัยคือสีเขียวมากขึ้น ทั้งนี้จะเหลือพื้นที่สีแดงเพียงจังหวัดเดียวคือสมุทรสาคร



ส่วนที่เหลือเป็นการพิจารณามาตรการผ่อนคลายเกี่ยวกับเรื่องของการแข่งขันกีฬา ประเภทเจ็ตสกี เนื่องจากต่างประเทศมีความไว้วางใจประเทศไทยที่สามารถจัดการแข่งขันแบตมินตันได้เรียบร้อย เป็นที่พอใจ จากนี้หลายหลายอย่างจะตามมาเป็นลำดับ เพื่อช่วยในเรื่องการเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการท่องเที่ยว และการบริการอีกด้วย

อย่างไรก็ตามก็ต้องรักษามาตรการของศบค.ไว้ด้วย ถ้าทั้งหมดเข้ามาตรการได้ก็สามารถดำเนินการได้

"ส่วนเรื่องวัคซีนยืนยันว่าในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้จะเดินทางถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน และเมื่อมาถึงก็จะใช้เวลาเตรียมการ 2-3 วัน เมื่อพร้อมเมื่อไหร่ก็ฉีดเมื่อนั้นสำหรับผมก็พร้อมที่จะฉีด ทั้งนี้ในเรื่องการขยายเวลาพระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประชุมมีมติขยายต่อจนถึงวันที่ 31 มีนาคม ทั้งนี้เพื่อบูรณาการงานในหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการ ควบคุมการแพร่ระบาด" นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า


ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อ พรก.ฉุกเฉิน ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม และเหลือพื้นที่สีแดงเพียงจังหวัดเดียวคือจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนสีส้ม เหลือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ราชบุรี ตาก เป็นต้น สีเหลือง 14 สีเขียว 54 จังหวัด ทั้งนี้

 

 

สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ทุกพื้นที่ รวมถึงสามารถเล่นดนตรีสดได้ ยกเว้นสมุทรสาคร จนถึงเวลา 23.00 น. แต่ยังคงห้ามเต้น ส่วนศูนย์การค้าเปิดได้ตามปกติ สำหรับสถานศึกษาสามารถเปิดได้ตามปกติและผสมผสาน ในส่วนสถานที่ออกกำลังกายเปิดได้ตามปกติ แต่การแข่งขันยังคงจำกัดผู้ชม อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อกำหนดในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นให้อำนาจแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประกาศ


คำที่เกี่ยวข้อง : #บิ๊กตู่   #นายกรัฐมนตรี  









©2018 CK News. All rights reserved.