สธ.ยันไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ให้ด่านหน้าฉีดกระตุ้นเข็ม 3 มากกว่า 5 แสนโดส ไม่มีวีไอพี


25 ก.ค. 2564, 16:51

สธ.ยันไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ให้ด่านหน้าฉีดกระตุ้นเข็ม 3 มากกว่า 5 แสนโดส ไม่มีวีไอพี




วันที่ 25 ก.ค. 2564 นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดสที่จะเข้ามาในเดือน ก.ค. นี้ จากกระแสข่าวที่ระบุว่าบุคลากรด่านหน้าได้ฉีดวัคซีน 200,000 โดส แล้วที่เหลือหายไปไหน โดยระบุ ยืนยันว่า เป็นข่าวปลอมและความจริงคือวัคซีนไฟเซอร์จะถูกนำมาใช้ฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ไม่น้อยกว่า 5 แสนโดสแน่นอน และจะเริ่มฉีดก่อนเป็นกลุ่มแรกในเดือน ส.ค. ส่วนวัคซีนที่เหลือจะกระจายไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยง โดยจะมีคณะทำงานจากทุกภาคส่วนร่วมพิจารณาดำเนินการจัดสรรวัคซีนล็อตนี้



นพ.รุ่งเรือง ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้มีบุคลากรที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ได้ฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้วส่วนหนึ่ง มีข้อมูลการตรวจระดับภูมิคุ้มกันจากการฉีด ซิโนแวค 2 เข็ม + แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม พบว่าอยู่ในระดับที่สูงมากกว่า ซิโนแวค + แอสตร้าเซนเนก้า, แอสตร้าเซนเนก้า +แอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์ + ไฟเซอร์, ซิโนแวค + ซิโนแวค และ การติดเชื้อตามธรรมชาติ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการบังคับฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้าในบุคลากรทางการแพทย์ ที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม แน่นอน

รวมถึงกระแสข่าวที่ว่า "วัคซีนไฟเซอร์จะฉีดให้กลุ่มวีไอพี" นพ.รุ่งเรือง ย้ำว่า ไม่เป็นความจริง เพราะจะเรียงตามลำดับโดยเริ่มให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงก่อน ไม่มีการให้กลุ่มอื่น หรือ วีไอพี ที่ไม่ได้อยู่ในลำดับเด็ดขาด และเป็นการให้บริการฟรีโดยภาครัฐ


“ไฟเซอร์อีก 20 ล้านโดส ที่จะเข้ามาเดือน ต.ค. -ธ.ค. ปีนี้  ยืนยันว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมดเป็นการให้ฉีดฟรี ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน แต่จะเน้นให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง การเรียกรับเงิน การให้ข่าวปลอม ที่สร้างความปั่นป่วนในวิกฤตโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด หากพบให้แจ้งข้อมูลเข้ามาได้เลย” นพ.รุ่งเรือง กล่าว

ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติม กรณีที่มีการตั้งคำถามว่า ประเทศไทยจะวิกฤตหนักขึ้นถึงขั้นต้องใช้โมเดลปิดเมืองแบบอู่ฮั่นหรือไม่นั้น มาตรการตอนนี้คือ ให้งดออกจากบ้านกรณีที่ไม่มีความจำเป็น เรียกได้ว่าแทบจะใกล้เคียงกับอู่ฮั่นอยู่แล้ว สถานการณ์ตอนนี้คงจะยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งมาจากผู้ที่เดินทางกลับจาก กทม. คาดว่าสถานการณ์ตัวเลขใน กทม. ตอนนี้คงตัว และอีกประมาณ 4 - 6 สัปดาห์ กทม. อาจจะดีขึ้น แต่ต่างจังหวัดอาจจะเพิ่ม ย้ำว่าให้ช่วยกันเพื่อไม่ต้องไปถึงระดับเดียวกันกับอู่ฮั่น











©2018 CK News. All rights reserved.