ไฟไหม้โรงเรือนเลี้ยงนกกระทาวอดทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร


4 ม.ค. 2565, 15:48

ไฟไหม้โรงเรือนเลี้ยงนกกระทาวอดทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร




เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ม.ค.65 ร.ต.อ.หญิง สุชิรา ยะโก๊ะ พนักงานสอบสวน สภ.เบตง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 69 ถ.ปิยานนท์พงศ์ เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา จึงประสานรถดับเพลิงหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง และรถดับเพลิงของอำเภอเบตง เข้าดับไฟ และรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.รุสมาน ดีนามอ รอง ผกก.สอบสวน นายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภอเบตง นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง



ที่เกิดเหตุเป็นโรงเรือนไม้ชั้นเดียวเป็นที่เลี้ยงนกกระทา ห้องเก็บอุปกรณ์งานช่าง และ โรงจอดรถ ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันกระจายเต็มท้องฟ้าสามารถมองเห็นได้ทั่วเมืองเบตง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อม อส. ได้นำรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน กำลังฉีดน้ำเร่งดับไฟ และยังมีจิตอาสา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ระแวกใกล้เคียงช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพลิงจึงสงบ โรงเรือนถูกเผาวอดไปทั้งหลัง แต่ยังโชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าสกัดเพลิงได้ทันไม่ให้ไฟลามไปติดยังบ้านพัก

น.ส.วิระยา ทองสัน อายุ 35 เจ้าของเล่าว่า จุดที่เพลิงไหม้เป็นที่เลี้ยงนกกระทา ห้องเก็บอุปกรณ์งานช่าง และห้องนอนของลูกชาย ซึ่งมีอายุ 10 ขวบและ 5 ขวบ ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้านก็ได้ยินดังและมีกลิ่นเหม็นไหม้ จึงออกมาดูก็พบว่าเกิดไฟไหม้ เสียงที่ได้ยินก็เสียงไฟไหม้สังกะสี ตนตกใจมากได้วิ่งออกมาตะโกนให้ชาวบ้านช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟ แต่ก็ไม่ทันไฟได้ไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว นกกระทาที่เลี้ยงไว้ 300 กว่าตัว ก็ถูกไฟเผาไหม้หมดไม่เหลือแม้แต่ซาก อุปกรณ์ช่างก็ถูกเผาจนหมด ไฟยังลามมาติดโรงจอดรถที่อยู่ติดกันอีกด้วย แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรขณะเกิดเหตุลูกของตน 2 คน ก็เล่นอยู่ด้านนอก ส่วนบ้านพักเจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันสกัดเพลิงไม่ให้ลามไปยังบ้านพักที่อยู่ใกล้กัน


ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะโรงเรือนแห่งนี้เป็นโรงเรือนที่ถูกสร้างขึ้นมานานแล้ว สายไฟต่างๆก็มีสภาพที่เก่าอาจมีการชำรุด ประกอบกับโรงเรือนแห่งนี้มีตู้ที่ใช้ไฟฟ้าในการเลี้ยงนกกระทา เก็บไข่ไก่ ไข่นก อาจมีการช็อตของระบบไฟจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ แต่ก็ต้องคอยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน10 ยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง











©2018 CK News. All rights reserved.