จากกรณีเมื่อกลางดึกเกิดเพลิงไหม้อาคารฝึกงานเย็บผ้านักโทษหญิง เรือนจำกลางอุบลราชธานี ลุกไหม้อยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไหม้อาคารวอดทั้งหลัง แต่ไม่ลุกลามไปพื้นที่ใกล้เคียงและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นคาดมาจากไฟลัดวงจรนั้น
 
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี นำเครื่องมือเข้าเก็บหาวัตถุพยานหลักฐานการเกิดเพลิงไหม้บริเวณอาคารฝึกงานเย็บผ้าของนักโทษหญิงแดน 8 และก่อนจะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปยังจุดเกิดเหตุที่อยู่ในเรือนจำ เจ้าหน้าที่พยาบาลประจำเรือนจำกลาง ได้ทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วยระบบ ATK ก่อนอนุญาตให้เข้าไปทำหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก็ได้กลับออกมา และนำหลักฐานไปตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ก่อนสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์

ต่อมา นายเอกรินทร์ วรรณเวส ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุบลราชธานี กล่าวถึงเหตุการณ์การเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เกิดขึ้นเวลาประมาณ 23.50 น.ของคืนที่ผ่านมา จึงเดินทางมาบัญชาการดับไฟด้วยตัวเอง เมื่อถึงเจ้าหน้าที่พัศดีเข้าเวรได้ใช้ถังเคมีดับเพลิง ทำการดับไฟตามที่ได้ฝึกซ้อม แต่ประเมินว่าเอาไม่อยู่ จึงได้แจ้งขอรถดับเพลิงเข้ามาช่วยดับไฟ ซึ่งได้ทำตามขั้นตอนปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ จึงทำให้ควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและสงบลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

 
ส่วนสาเหตุพัศดีเวรที่เดินตรวจอยู่บริเวณอาคารต้นเพลิงเห็นประกายไฟจากสายไฟในอาคาร ก่อนลุกไหม้กองผ้าที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ส่งมาว่าจ้างให้ผู้ต้องขังหญิงตัดเย็บเป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และชุดคนไข้ อาคารที่เสียหายมีความกว้าง 4 คูณ 6 เมตร โดยที่อนุญาตให้รถดับเพลิงเข้าไปเพียง 2 คัน เพราะตนประเมินแล้วว่าพอใช้ดับเพลิงไม่ให้ลุกลามบานปลายได้ ประกอบกับจุดเกิดเหตุมีพื้นที่คับแคบ รถดับเพลิงเข้าไปไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้รวดเร็วดังกล่าว