ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 ก.พ.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ จ.ตาก รับแจ้งมีเหตุเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 7 เดือน สัญชาติเมียนมา พลัดตกลงไปในหลุมเจาะบ่อบาดาลกลางไร่มันสำปะหลัง ในหมู่บ้านร่มเกล้าเจริญสุข หมู่ 13 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก

ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังใกล้สวนอะโวคาโด้ โดยมีหลุมเจาะน้ำบาดาลที่เพิ่งขุดเจาะไปได้เพียงไม่กี่วัน โดยมี ด.ญ.ตะส่า โมเอ อา 1 ปี 7 เดือน พลัดตกลงไปในหลุมเจาะบาดาล ระหว่างเดินเล่นใกล้กองดินบ่อบาดาล และยังไม่ทราบชะตากรรม

จากการตรวจสอบพบว่าปากหลุมดังกล่าวมีความกว้าง 1 ฟุตเศษ และมีความลึกหลายสิบเมตร เจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพได้ตะโกนลงไปในหลุมและพบเสียงเด็กหญิงร้องไห้สะท้อนกลับมาแต่แผ่วเบา จากนั้นทีมกู้ภัยจึงใช้กล้องบันทึกภาพขนาดเล็กมัดเชือกแล้วหย่อนลงไปภายในหลุม ก็พบตัวเด็กหญิงติดค้างอยู่ในโพรงดินที่ความลึกประมาน 15 เมตร เบื้องต้นตรวจพบว่าเด็กยังพอมีการขยับตัวบ้างเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงรีบต่อสายอากาศเพื่อเพิ่มอากาศลงไปในหลุม แต่การกู้ชีพช่วยชีวิตเด็กน้อยรายนี้ก็ประสบอุปสรรคหลายด้าน ทั้งความมืดและคันดินที่อ่อน เสี่ยงเกิดดินสไลด์ตัวลงไปในหลุม เจ้าหน้าที่จึงเพิ่มความระมัดระวังอย่างรัดกุม

นางอะเท แม่เด็กกล่าวว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาตนและสามีได้มารับจ้างขุดมันสำปะหลังในจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนได้อุ้มลูกสาวมาด้วย จากนั้นตนได้วางลูกไว้ใกล้กับต้นไม้เพื่อหลบแดด ซึ่งจุดนั้นมีกองดินจากการขุดบ่อบาดาล ลูกสาวจึงไปเล่นกองดินตามประสาเด็ก จากนั้นตนกับเพื่อนคนงานจึงเร่งมือขุดมันสำปะหลัง โดยเผลอละสายตาไม่ได้ดูลูกสาวเป็นเวลานานหลายนาที หลังจากนั้นตนจะเดินไปหาลูกแต่ก็ไม่พบตัว จึงรีบตะโกนเรียกชื่อและกระจายกำลังเพื่อนคนงานออกค้นหา แต่ไม่พบ และก็ต้องถึงเกือบจะเป็นลมเมื่อตนสงสัยว่าลูกอาจจะพลัดตกลงไปในหลุมบาดาล จึงลองตะโกนลงไปในหลุม ก็มีเสียงลูกร้องไห้ ก่อนรีบวิ่งไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

ล่าสุดทีมกู้ชีพใช้ความพยายามตลอดทั้งคืน นานกว่า 14 ชั่วโมง โดยใช้รถแบคโฮ ขุดหน้าดิน เจ้าหน้าที่ อีกชุด ก็คอยตรวจสอบสัญญาณชีพของน้อง อยู่ที่ปากบ่อ เป็นระยะๆ ก็ยังได้ยินเสียงน้องร้องไห้ และร้องเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ คาดว่า น่าจะตกใจเสียงจากรถแบคโฮ

ขณะเดียวกัน เจ้ากหน้าที่ ได้เปลี่ยนแผน จากการใช้เครื่องเจาะหิน มาใช้แรงงานคนแทน โดยจะเป็นการเซาะก้อนหิน เพื่อเปิดทางไปยังจุดที่น้องนั่งอยู่

ปฏิบัติการช่วยเหลือน้องเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ตลอดเวลา จนถึง ณ ขณะนี้ เรายังได้ยินเสียงน้องร้องไห้เป็นระยะๆ ถือเป็นสัญญาณชีพที่ดี ซ่ึงทีมเจ้าหน้าที่ ยังเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 
กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.พ.)สามารถนำเด็กออกมาจากท่อบาดาลได้ปลอดภัย ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

ขอบคุณภาพ FB/หัวหน้าก้อย กิตติศักดิ์ บุญจันทร์