วันที่ 14 มีนาคม 2566 ตามนโยบายผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดย พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ./ผบ.กกล.บูรพา ได้ประสานกับ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำอาง ผกก.สภ.คลองน้ำใส พร้อมด้วย พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.กรมที่13. กำลังทหารหน่วยเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังบูรพา กองร้อยทหารพรานที่ 1303 เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกัน สกัดกั้น และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย

โดย พ.ต.ท.จรูญ เปรมกระโทก สว.สส.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมกับ ร.อ.ศิลกัล รักมิตร ผบ.ร้อย 1303 กกล.บูรพา พร้อมด้วยกำลังจนท.ทราบว่าจะมีขบวนการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย

จึงได้ทำการสนธิกำลังทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตาม พรบ.ศุลกากร ในพื้นที่รับผิดชอบ จากนั้นนำกำลังออกลาดตระเวนได้ตรวจพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายวิ่งเข้าไปในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว จึงได้นำกำลังติดตาม ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.จนท.ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น ที่บริเวณ บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 6 บ.โนนขี้เหล็ก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (TA 171036) ไม่พบเจ้าของบ้าน แต่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จนท.พบรถจักรยานยนต์ จำนวนมาก รวม 37 คัน ซึ่งสันนิษฐานว่า บริเวณบ้านหลังดังกล่าวเป็นจุดพักคอยรถจักรยานยนต์ จากการโจรกรรม เพื่อเตรียมรอการส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้ถูกโจรกรรมมา อีกทั้งยังมีกลุ่มขบวนการโจรกรรม ได้ว่าจ้างคนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน ให้ไปดาวน์รถ และนำรถไปแลกเป็นเงินกับกลุ่มขบวนการฯ จากนั้นก็จะนำใบแจ้งความรถหายไปให้กับร้าน เพื่อให้บริษัทประกันชดใช้แทน หลังจากนั้นจึงได้นำรถจักรยานยนต์ของกลางทั้งหมดรวม 37 คัน ดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป