ตำรวจไซเบอร์ จับยกแก๊งวัยรุ่นหลอกขายปืนเถื่อน แล้วแบล็กเมล์เหยื่อโอนเงินซ้ำอีกรอบ


24 พ.ค. 2566, 10:52

ตำรวจไซเบอร์ จับยกแก๊งวัยรุ่นหลอกขายปืนเถื่อน แล้วแบล็กเมล์เหยื่อโอนเงินซ้ำอีกรอบ




เวลา 07.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐกรณ์ ประภายนต์ ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.ไพโรจน์ หมื่นกล้าหาญ รอง ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 พร้อมกำลังนำหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านพักในพื้นที่มีนบุรี กทม.  รวม 4  จุด พร้อมจับกุมนายบุญมี คงคา อายุ 24 ปี กับพวกที่เป็นเยาวชนชาย 2 คนและเยาวชนหญิงอีก 2 คน มีอายุระหว่าง 16-17 ปี ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางชุดปฏิบัติการ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 ตรวจสอบพบว่าในทวิตเตอร์ชื่อ"น้าจอนปืนเถื่อน" มีการโพสต์ข้อความซื้อ-ขายอาวุธปืนไม่มีทะเบียน ปืนปากกา ปืนไทยประดิษฐ์และ ปืนหลุดจำนำ ทางออนไลน์ ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนติดต่อขอซื้ออาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก ในราคา 4,700 บาท หลังจากโอนเงินตามยอดที่ตกลงซื้อเรียบร้อยแล้ว ทางกลุ่มคนร้ายแจ้งว่าได้ทำการส่งอาวุธปืนมาทางพัสดุภัณฑ์กับบริษัทขนส่งเอกชนให้ผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการส่งอาวุธปืนให้ผู้ซื้อจริง

ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาย้อนรอยโทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาผู้ที่สั่งซื้ออาวุธปืน อ้างว่าเป็นการติดต่อมาจากบริษัทขนส่งเคอรี่ แจ้งว่าตรวจพบพัสดุที่ผู้ส่งได้สั่งเป็นพัสดุผิดกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือ จะไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิด แต่ให้ทางผู้สั่งซื้อโอนเงินไปให้ทางพนักงานจำนวน 20,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งเป็นการข่มขู่หลอกลวงให้เหยื่อแต่ละรายที่เข้าไปสั่งซื้ออาวุธปืนหลอกโอนเงินซ้ำอีกรอบ ซึ่งเป็นการกระทำในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

จากการสอบสวนนายบุญมี ให้การยอมรับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น จัดหาบัญชีม้า เป็นแอดมินเพจที่ใช้หลอกลูกค้า ตอบข้อความลูกค้า ทำหน้าที่โทรกลับไปข่มขู่เหยื่อและหลอกว่าเป็นบริษัทขนส่ง อ้างมีของผิดกฎหมาย และผู้ที่ทำการกดเงินที่ได้จากการกระทำความผิดจากบัญชีม้า

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการทำหน้าที่ของผู้ต้องหาที่ใช้ก่อเหตุของแต่ละคน ได้เรียนรู้มาจากกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เคยกระทำความผิดลักษณะเดียวกัน แต่อาจจะมีรูปแบบแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการหลอกขายสินค้าทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย หรือหลอกให้ทำงาน เป็นต้น จะอาศัยใช้ช่องโหว่ของกฎหมายที่ผู้เสียหายไม่กล้าเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเกรงกลัวว่าตนเองจะมีความผิดต้องรับโทษ เพราะเกิดจากการสั่งสินค้าที่ผิดกฎหมาย กลุ่มคนร้ายจึงย่ามใจร่วมกันก่อเหตุเรื่อยมา เนื่องจากหาเงินง่ายมีรายได้ดี

ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ร่วมกันก่อเหตุมาตั้งแต่ต้นปี 2565 พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารกว่า 2 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จะนำมาแบ่งกัน เพื่อใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #แก๊งวัยรุ่น  









©2018 CK News. All rights reserved.