ดีเอสไอ จับ “กชพร” โบรกเกอร์ คนสุดท้าย “คดีหมอบุญ” หลังหนีกบดานต่างประเทศ


16 เม.ย. 2568, 10:56

ดีเอสไอ จับ “กชพร” โบรกเกอร์ คนสุดท้าย “คดีหมอบุญ” หลังหนีกบดานต่างประเทศ




วันที่ 16 เม.ย.2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ควบคุมตัว นาวสาวกชพร สุวรรณกูฏ อายุ 39 ปี โบรกเกอร์คนสุดท้าย ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ ซึ่งหลบหนีออกนอกประเทศไปนานเกือบ 1 ปี มาที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งวัฒนะ หลังควบคุมตัวได้ ผ่านการประสานงานจากประเทศพันธมิตรในการส่งตัวกลับมาประเทศไทย

ต่อมา เวลา 09.15 น. พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พลตำรวจตรีพิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม

พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการติดตามผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท

โดยคดีนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหารวม 16 ราย ก่อนหน้านี้หลบหนีไปต่างประเทศ 3 ราย เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 68 จับกุมได้ 1 ราย ที่ประเทศจีนผลักดันกลับมา และล่าสุด เมื่อเช้านี้ สามารถติดตามจับกุมมาได้อีก 1 ราย จากการผลักดันกลับมาของประเทศพันธมิตร ทำให้ตอนนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังไม่ได้ตัวคือ หมอบุญ

สำหรับผู้ต้องหาที่เพิ่งได้ตัวมา ขณะนี้ต้องรอติดต่อทนายความ จึงจะเริ่มสอบสวนได้ แต่เบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาบอกว่ามีลูก 3 คน และห่วงลูก ก็ต้องเปิดโอกาสให้มีการแจ้งญาติ ให้ทราบความเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่จบ เพราะยังมีเรื่องของความเสียหาย ที่เจ้าทุกข์ต้องการได้คืน ซึ่งต้องไปดูเรื่องการปรับปรุงกฎระเบียบด้วย

ด้าน ร้อยตำรวจเอกวิษณุ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ในวันนี้ มีพฤติการณ์กระทำความผิดแบบเดียวกับโบรกเกอร์ที่ถูกผลักดันกลับมาจากประเทศจีนเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 68 คือชักชวนให้ผู้เสียหายมาลงทุน

สำหรับตัวของ หมอบุญ ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ ตอนนี้ทราบเบาะแสแล้ว แต่ขอปกปิดไว้ก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณาการร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อนำตัวผู้ต้องหามาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ คดีนี้จะมีภาค 2 เตรียมที่จะดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอีกหลายราย

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2567 มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเอาผิด นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี พร้อมพวก จากกรณีหลอกลวงให้ลงทุน 5 โครงการทิพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ต่อมาคดีนี้ได้ถูกส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอรับผิดชอบ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 300 ล้านบาท

หลังจากนั้น ดีเอสไอได้สรุปสำนวน จำนวน 342 แฟ้ม รวมเอกสารกว่า 130,000 แผ่น โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาล็อตแรกได้ 13 ราย จากทั้งหมด 16 ราย และอัยการพิจารณาสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 68 ในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนด
การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ส่วน หมอบุญ และผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่หนีไปกบดานต่างประเทศ ดีเอสไอได้ประสานตำรวจสากล ออกหมายแดงเพื่อจับกุมตัว จนกระทั่งได้ตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปทั้ง 2 คน เหลือเพียง หมอบุญ ที่อยู่ระหว่างติดตามตัว





คำที่เกี่ยวข้อง : #คดีหมอบุญ  









©2018 CK News. All rights reserved.