“ภูมิธรรม” นำทีมทลายบ่อน ”นวย ดอนเมือง” พบเงินหมุนเวียน 400 ล้านต่อเดือน


28 ส.ค. 2568, 06:07

“ภูมิธรรม” นำทีมทลายบ่อน ”นวย ดอนเมือง” พบเงินหมุนเวียน 400 ล้านต่อเดือน




วันที่ 28 ส.ค.2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” เข้าทลายบ่อนการพนันในตำนาน “นวย ดอนเมือง” ที่ลักลอบเปิดซ้ำซาก ย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ

การเข้าจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้าออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนัน 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียงเป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่มเหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆอยู่ในพื้นที่ 

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบเงินสด ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท สมุดบัญชีธนาคารรวม 17 เล่ม ซึ่งเป็นของหญิงคนหนึ่งชื่อเดียวกันทั้งหมด มีเงินโอนเข้าบัญชีตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักสิบล้าน ทั้งนี้ยังพบสลิปเงินฝากในวันเดียวรวมแล้ว เกือบ 4 ล้านบาท 

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า บ่อนพนันดังกล่าวมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้าน ถึง 10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300 ถึง 400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน เฉพาะบริเวณห้อง VIP  ต่อ 1 ชั่วโมงจะมีเงินหมุนเวียนบนโต๊ะพนันประมาณ 3-4 ล้านบาท 

จากการตรวจสอบขณะนี้ทราบแล้วว่าเจ้าของพื้นที่คือใครและทราบคนเช่าพื้นที่แล้วแต่จะต้องให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนว่าเจ้าของบ่อนและผู้เช่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนสมุดบัญชีธนาคารที่พบ ซึ่งเป็นชื่อของหญิงคนหนึ่ง ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับคนเช่าและเจ้าของบ่อนอย่างไร

เบื้องต้นจะให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนจำนวนเงินที่มากขนาดนี้จะดำเนินคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาพยานหลักฐานที่ตรวจพบ ทั้งนี้จะพิจารณาเรื่องการงดใช้พื้นที่ดังกล่าว

กรณีเกี่ยวกับพัฒนาการของบ่อนดังกล่าวที่เริ่มต้นจากเพียงการลักลอบเล่นภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จนกลายเป็นอาคารสถานที่ ขณะนี้จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าเหตุใดจึงเกิดการตกแต่งก่อสร้างขึ้นมาได้ขนาดนี้

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าจำนวนนักพนันนับร้อยคนเป็นเพราะการปิดชายแดนไทยกัมพูชาในพื้นที่ปอยเปต จึงเข้ามาเล่นตามบ่อนต่างๆมากขึ้นหรือไม่นั้น ไม่อยากให้โยงเป็นเรื่องเดียวกันเพราะนักเล่นแต่ละคนย่อมรู้อยู่ว่ามีสถานที่เล่นอยู่ที่ใดบ้างแต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าไปดำเนินการ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า บ่อนดังกล่าว ได้ถูกจับมาแล้วก่อนหน้านี้ถึง 3 ครั้ง แต่ยังกลับมาเปิดเป็นครั้งที่ 4 และมาถูกบุกจับกุมเป็นครั้งล่าสุด

 


 





คำที่เกี่ยวข้อง : #ทลายบ่อน  









©2018 CK News. All rights reserved.