มจร จัดประชาพิจารณ์ครั้งใหญ่ (ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13


8 มี.ค. 2565, 11:28

มจร จัดประชาพิจารณ์ครั้งใหญ่ (ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13




พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะทำงานยกร่างแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯระยะที่ 13 ได้กล่าวว่า วันที่ 7-10 มีนาคม 2565 นี้คณะทำงานยกร่างแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้กำหนดจัดประชาพิจารณ์(ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13 ทั่วประเทศผ่านระบบ ซูม ออนไลน์ โดยกำหนดดังนี้

  7 มีค.๒๕๖๕ มจร  โซนภาคใต้
  8 มีค. ๒๕๖๕ มจร  โซนภาคเหนือ
  9 มีค. ๒๕๖๕ มจร  โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  10 มีค.๒๕๖๕ มจร   โซนภาคกลาง

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ดำเนินการ จัดทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะที่ ๑๓ ตามพันธกิจ  ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งก็เป็นไปตามการจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย กลุ่มที่ ๔ คือกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา



พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวว่า คณะทำงาน  ได้ดำเนินการระดมความคิดภายใต้หลักการ  engaged Buddhist university  ประกอบด้วย 1. บริการวิชาการทุกรูปแบบ สร้างหลักสูตรระยะสั้น ระยะยาว เหมาะแก่การเรียนรู้แต่ละวัยจากประชาคม 2. สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา พัฒนาจิตใจและสังคม 3. สร้างสาธารณประโยชน์ อยู่ดีมีสุขรับผิดชอบต่อสังคม และรวมทั้งแนวคิด ๑๓ หมุดหมายพลิกโฉมประเทศไทยเป็นองค์ประกอบในการจัดทำแผนในครั้งนี้

ในการประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากการระดมความคิดเห็น จาก ทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย

ครั้งที่ ๑ ส่วนงานภาคเหนือ ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๔ ณ วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน ๙ ส่วนงาน ได้แก่ วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาเขตแพร่ วิทยาเขตพะเยา วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน  วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย วิทยาลัยสงฆ์ลำปาง วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติ วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง

ครั้งที่ ๒ ส่วนงาน ส่วนกลาง ภาคกลาง ภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๓๐ - ๓๑ มีนาคม และวันที่  ๑ เมษายน ๒๕๖๔  ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน ๑๕ ส่วนงาน ได้แก่ ส่วนกลาง วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วิทยาเขตนครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี  วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี วิทยาลัยสงฆ์สุราษฏร์ธานี วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ วิทยาลัยสงฆ์ระยอง วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี


ครั้งที่ ๓ ส่วนงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วิทยาเขตขอนแก่น ระหว่างวันที่ ๗ - ๙ เมษายน ๒๕๖๔ โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน ๑๒ ส่วนงาน ได้แก่ วิทยาเขตหนองคาย วิทยาเขตขอนแก่น วิทยาเขตนครราชสีมา วิทยาเขตอุบลราชธานี วิทยาเขตสุรินทร์ วิทยาลัยสงฆ์เลย วิทยาลัยสงฆ์นครพนม วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ วิทยาลัยร้อยเอ็ด และวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม

หลังจากนั้นคณะทำงานฯ ได้ประชุมเพื่อทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ไม่น้อยกว่า ๑๐ ครั้ง เมื่อได้ร่างแผนพัฒนาแล้ว ได้นำเสนอผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และกลยุทธ์  เพื่อให้สามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้  จำนวนทั้งสิ้น ๕ ประเด็นยุทธศาสตร์ ๑๗ เป้าประสงค์ ๓๒ ตัวชี้วัด ๒๙  กลยุทธ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

วิสัยทัศน์

“มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาที่สร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม”
Buddhist university with Buddhist innovation for mental and social development

ประเด็นยุทธศาสตร์ ๕ ประเด็น

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๑ การพัฒนาบัณฑิตให้มีคุณภาพและคุณธรรม ประกอบด้วย ๔ เป้าประสงค์ ๑๖ ตัวชี้วัด ๑๑ กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๒ พัฒนางานวิจัยหรือสร้างพุทธนวัตกรรมให้มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ประกอบด้วย ๔ เป้าประสงค์ ๙ ตัวชี้วัด ๗ กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๓ เป็นศูนย์กลางการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและปรัชญาเพื่อสร้างชุมชนและสังคมสันติสุข ประกอบด้วย ๒ เป้าประสงค์ ๔ ตัวชี้วัด ๔ กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๔ อนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริมและพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย ๒ เป้าประสงค์ ๒ ตัวชี้วัด ๒ กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๕ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรเชิงพุทธบูรณาการ  ประกอบด้วย ๒ เป้าประสงค์ ๕ ตัวชี้วัด ๕ กลยุทธ์

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวในตอนท้ายว่า การประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เป็นการประชาพิจารณ์ (ร่าง) แผนพัฒนาระยะที่ ๑๓ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ สมบูรณ์และให้ทุกองคาพยพมีส่วนร่วม ซึ่งจะนำไปสู่ภาคปฏิบัติและบรรลุผลได้อย่างแท้จริง และแผนพัฒนามหาวิทยาลัยนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วม คือร่วมคิด ร่วมทำ เข้าใจและตรงกับบริบทที่แท้จริงของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เขียนไว้สวยงาม เลิศหรูแต่ยากต่อการปฎิบัติ ไม่บรรลุผล จากนี้ไปก็จะนำแผนพัฒนาฯดังกล่าวเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติและประกาศใช้ต่อไป

 


คำที่เกี่ยวข้อง : #มจร  









©2018 CK News. All rights reserved.