"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ พระราชทานบำเพ็ญพระกุศล คล้ายวันประสูติ "สมเด็จพระสังฆราช"


3 มี.ค. 2564, 08:44

"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ พระราชทานบำเพ็ญพระกุศล คล้ายวันประสูติ "สมเด็จพระสังฆราช"




เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ การบำเพ็ญพระกุศลคล้ายวันประสูติ เป็นปีที่ 124 แห่งเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ พระราชอุปัธยาจารย์ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระอุปัชฌายะของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ปัจจุบัน สกลมหาสังฆปริณายกพระ องค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และองค์อุปถัมภ์โรงเรียนวัดราชบพิธ ยุคที่ 4

การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ ทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระกุศลในพระบรมราชูปถัมภ์ อุทิศถวายเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าพระองค์นั้น เสร็จแล้ว ประทานทุนมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) แก่องค์กรสาธารณกุศล จำนวน 50 องค์กร

อนึ่ง พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เสด็จมาทรงเป็นประธานฝ่ายฆราวาส



โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า "เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระอุปัชฌายะของอาตมภาพ มีพระอัธยาศัยโปรดการบำเพ็ญพระกุศลสังคมสงเคราะห์ ทรงสร้างและทรงอุปถัมภ์โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์คนชรา โรงเรียน วัดวาอาราม มูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆ เป็นจำนวนมาก

ทุกวันประสูติของพระองค์ ดังโอกาสเช่นวันนี้ จะทรงพระกรุณาประทานทุนแก่องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ เป็นภาพที่อาตมภาพ และชาววัดราชบพิธยุคนั้นทุกคน จดจำได้อย่างชัดเจน พระองค์ทรงเล็งเห็นการณ์ไกล ด้วยพระคุณธรรมสำคัญคือความไม่ประมาท จึงประทานกำเนิดมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) เพื่อภารกิจด้านการสังคมสงเคราะห์ ให้ดำเนินสืบไปแทนพระองค์ แม้ว่าจะเสด็จล่วงลับหาพระองค์ไม่ไปแล้วก็ตาม พระเมตตากรุณาที่เคยมีประทานมาอย่างไร ทุกวันนี้เราท่านทั้งหลาย จึงยังคงสัมผัสได้ ยังรู้สึกได้อยู่อย่างนั้น ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของมูลนิธินี้ก็อาจมีข้อติดขัดอยู่บ้าง โดยเฉพาะในเวลาที่เศรษฐกิจของบ้านเมืองและของโลกประสบปัญหา มูลนิธิจะเจริญมั่นคงและมีทุนมากพอจะเกื้อกูลประโยชน์ได้ จึงจำเป็นต้องอาศัยกุศลศรัทธาของท่านสาธุชนเท่านั้น ที่คอยสนับสนุนค้ำจุน เพื่อสืบสานพระปณิธานให้ยังดำรงคงอยู่ เปรียบประดุจดวงประทีปแห่งการให้ อันสว่างเรืองรองส่องชาติ ส่องพระศาสนา ให้วัฒนาสถาพร

ขอท่านทั้งหลายที่มารับทุนมูลนิธิ ต่อเบื้องหน้าพระอัฐิในวันนี้ ร่วมกันน้อมจิตน้อมใจ รำลึกถึงพระเดชพระคุณของพระองค์ แล้วมุ่งมั่นบำเพ็ญกรณียกิจ ตามหน้าที่ของตนๆ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ วิริยอุตสาหะ และกตัญญู ถวายเป็นสักการบูชาสนองพระเดชพระคุณ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและพระศาสนาสืบไป

หากท่านทำได้เช่นนี้ อาตมภาพเชื่อแน่ว่า เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า แม้สิ้นพระชนม์ไปนานแล้ว แต่ยังทรงดำรงอยู่ด้วยพระคุณ จักต้องทรงพระโสมนัส ทรงอนุโมทนา และประทานพรให้ทุกท่านได้ประสบแต่ความสุขความเจริญทุกประการ"











©2018 CK News. All rights reserved.