กรมพระศรีสวางควัฒน ทรงบรรยายเรื่องการเกิดโรคมะเร็ง พระราชทานแก่ นศ.แพทย์ศิริราช


8 ก.ค. 2564, 08:51

กรมพระศรีสวางควัฒน ทรงบรรยายเรื่องการเกิดโรคมะเร็ง พระราชทานแก่ นศ.แพทย์ศิริราช




เมื่อเวลา 12.39 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ตำหนักทิพย์พิมาน ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อทรงบรรยายรายวิชา ผ่านระบบออนไลน์ หัวข้อ “การเกิดโรคมะเร็ง : Oncogenesis ในหัวข้อ “ระยะต่างๆ ของการเกิดมะเร็งและกลไกที่เกี่ยวข้อง” พระราชทานแก่นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 4 และชั้นปีที่ 5 ประจำปีการศึกษา 2564 ซึ่งในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สอง โดยในครั้งแรกทรงบรรยายถึงภาพรวมของการเกิดมะเร็งและชีววิทยาการเจริญของเซลล์มะเร็ง

ในวันนี้ ทรงบรรยายเกี่ยวกับกระบวนการ การเกิดมะเร็ง ซึ่งประกอบด้วยหลายขั้นตอน ได้แก่ ขั้นเริ่มต้น(Initiation) ขั้นก่อตัว (Promotion) และขั้นกระจายตัว (Progression) ซึ่งต่างมีความซับซ้อนในตัวเองทั้งสิ้น



โดยทรงบรรยายในขั้นเริ่มต้นที่มีรายละเอียดในเรื่องกลไกการเกิดมะเร็งจากสารเคมี ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ แต่เชื่อว่าสามารถแยกออกเป็น 2 รูปแบบ คือ กลไกที่มีการทำลายหรือเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอโดยตรง ทำให้เกิดการกลายพันธุ์และภายหลังกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งถือว่าเป็นขั้นเริ่มต้นของกระบวนการเกิดมะเร็งแต่ร่างกายของคนปกติสามารถซ่อมแซมดีเอ็นเอ หรือยีนด้วยเอ็นไซม์ ก่อนที่เซลล์จะแบ่งตัว จึงจะรักษาสภาพเดิมได้ ซึ่งความผิดปกติของโครงสร้างในดีเอ็นเอนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กระบวนการควบคุมการแบ่งตัวและการทำงานของเซลล์ผิดไป โดยทรงยกตัวอย่างกระบวนการที่เกิดขึ้นจากสารก่อมะเร็งที่ทำลายดีเอ็นเอโดยตรงชนิดต่างๆ ได้แก่ สารอะฟลาท๊อกซิน เป็นสารพิษจากเชื้อราพบได้ในเมล็ดธัญพืชชนิดต่างๆ สารไนโตรซามีน พบในอาหาร เช่น ปลาร้า กะปิ


รูปแบบที่ 2 เป็นกลไกที่ไม่ได้มีการทำลายดีเอ็นเอโดยตรง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Epigenetic mechanism  ซึ่งกลไกนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในระบบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแสดงออกของยีนส์ ซึ่งนำไปสู่การเกิดมะเร็ง โดยทรงยกตัวอย่างสารก่อมะเร็งในกลุ่มนี้อย่างละเอียด ซึ่งพบว่า แม้แต่การขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น โคลีน (choline) และ เมไธโอนีน (methionine) ก็ทำให้เกิดมะเร็งของตับได้











©2018 CK News. All rights reserved.